SIRI-BTS เปิด 25 โครงการใน 5 ปีกว่าแสนลบ.คาดบันทึกกำไร 1 พันลบ./รายปี 61

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 22, 2015 15:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) กล่าวถึงโครงการอสังหาริมทรัพย์ร่วมทุนกับ บมจ.แสนสิริ (SIRI) ในสัดส่วน 50:50 ว่า วางงบลงทุนที่ใช้ในการซื้อที่ดินภายใน 5 ปี (58-62) กว่า 2 หมื่นล้านบาท และวางแผนเปิดโครงการภายใน 5 ปีนับจากนี้ทั้งหมด 25 โครงการ มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งปีนี้มีการเปิดโครงการทั้งหมด 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในปี 61 หลังจากมีการเริ่มทยอยโอนโครงการคอนโดมิเนียมเดอะไลน์แล้วทั้ง BTS และ SIRI จะรับรู้กำไรเข้ามาเท่า ๆ กันบริษัทละประมาณ 1 พันล้านบาท

ส่วนแผนลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ บมจ.ยู ซิตี้ (U)ที่ BTS ถือหุ้นในสัดส่วน 25% นั้น จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 1.8 หมื่นล้านบาท คือ โครงการอาคารสำนักงานให้เช่าและโรงแรม บนทำเลพญาไท 7 ไร่ มุลค่าโครงการราว 1 หมื่นล้านบาท และโครงการอาคารสำนักงานบนทำเลจตุจักร 11 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 8 พันล้านบาท

นายคีรี กล่าวว่า หาก U มีผลการดำเนินงานที่เติบโตและมีศักยภาพมากขึ้น บริษัทก็อาจจะพิจารณาโอกาสที่เข้าไปถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 25%

"ถ้าหาก U มีการเติบโตที่มากขึ้นในอนาคตอย่างเห็นได้ชัด เราก็มีโอกาสที่จะเข้าไปถือหุ้น U เพิ่มอีก จากตอนนี้ที่เราถืออยู่ 25% แต่ว่าก็ต้องดูอีกทีว่าจะถือหรือไม่"นายคีรี กล่าว

สำหรับผลประกอบการของ BTS คาดรายได้รวมในงวดปี 58/59 (เม.ย.58-มี.ค.59) จะดีกว่างวดปีก่อนที่มีรายได้รวม 2.3 หมื่นล้านบาท โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากบริการขนส่งมวลชนที่คาดว่าจะเติบโต 6-8% แบ่งเป็นรายได้จากบริการเดินรถเติบโต 2% และยอดผู้โดยสารเติบโต 4-6%

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของบริษัทราว 40-50% จะมาจากธุรกิจขนส่งมวลชน รองลงมาประมาณ 30% จากธุรกิจสื่อโฆษณา อีก 15% มาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ ในส่วนของรายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาปีนี้อาจไม่มากเท่าปีก่อน หลังจากที่ VGI ได้ยกเลิกสัญญาโฆษณาในห้างโมเดิร์นเทรด โดยหันมาเน้นโฆษณาบนสถานีและรถไฟฟ้าบีทีเอสแทน

นายคีรี กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้เติบโตค่อนข้างช้า ขณะนี้หวังว่าภาครัฐจะมีโครงการลงทุนใหม่ๆ ออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่ง บริษัทได้ทำการเสนอโครงการระบบรางไปยังรัฐบาลเมื่อปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเส้นทางที่สนใจลงทุน คือ ขอนแก่น-แหลมฉบัง ระยะทาง 500 กิโลเมตร เป็นรถไฟทางคู่ มูลค่าลงทุนประมาณ 1.2 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลว่าจะให้เข้ามาลงทุนหรือไม่

"เรามีความสนใจการลงทุนในโครงการของภาครัฐ คือ รถไฟฟ้ารางคู่ ซึ่งคาดว่าต้องใช้เม็ดเงินในการลงทุนค่อนข้างมาก อย่างไรก็ดีบริษัทก็ไม่เคยปิดกั้นโอกาสสำหรับผู้ที่จะเข้ามาร่วมทุน แต่บริษัทจะพิจารณาว่าการเข้ามาร่วมทุนครั้งนี้จะมาสร้างประโยชน์ให้กับบริษัทและสร้างประโยชน์ให้ประชาชนมากน้อยเพียงใดด้วย"นายคีรี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ