CIG มั่นใจปีนี้กำไรสูงกว่าปีก่อน,เจรจาพันธมิตรตั้งโรงงานผลิตในอินโดฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 23, 2015 12:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอารีย์ พุ่มเสนาะ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซี.ไอ.กรุ๊ป (CIG) เปิดเผย"อินโฟเควสท์" โดยมั่นใจว่ากำไรสุทธิปีนี้จะสูงกว่าระดับ 93.7 ล้านบาทในปีก่อน แม้ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะกดดันให้รายได้ปีนี้จะทำได้เพียงใกล้เคียงปีก่อนที่ระดับ 1.15 พันล้านบาทก็ตาม แต่บริษัทจะใช้กลยุทธ์ในการขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องและยังอยู่ระหว่างเจรจาขายโรงแรมบนเกาะสมุยให้นักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งจะสรุปได้ในปีนี้นั้นจะมีส่วนช่วยผลักดันกำไรให้เติบโตขึ้น

ขณะที่ยังเจรจากับพันธมิตรเพื่อเข้าไปตั้งโรงงานผลิตคอยล์ในอินโดนีเซีย ซึ่งถือว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปก่อนจะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ซึ่งจะหนุนเป้าหมายยอดขายให้ทะลุ 3 พันล้านบาทในปี 60

"ปีนี้เรามั่นใจว่ารายได้จะใกล้เคียงกับปีก่อน เพราะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศมีการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับต้นทุนที่ถูกลงทำให้ บริษัทมีการปรับราคาขายสินค้าลงด้วย สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังเราเชื่อว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะเน้นการขยายตลาดต่างประเทศเป็นหลัก จะส่งผลให้เรามีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 70% และในประเทศ 30% จากปัจจุบันอยู่ยอดขายต่างประเทศอยู่ที่ 50% ซึ่งเราจะใช้กลยุทธ์ไปออกบูธแสดงสินค้าในงานต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ขณะที่แนวโน้มกำไรสุทธิปีนี้เราก็ค่อนข้างมั่นใจว่าจะมากกว่าปีก่อน เพราะปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ของบริษัทมากขึ้น"นายอารีย์ กล่าว

นายอารีย์ กล่าวอีกว่า บริษัทมีความมั่นใจว่ากำไรสุทธิปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีก่อน แม้ว่าในไตรมาสแรกจะมีผลขาดทุนสุทธิ 7.5 แสนบาทก็ตาม แต่ในช่วงครึ่งปีหลังบริษํทจะใช้กลยุทธ์การขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศสหรัฐฯ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และในภูมิภาคเอเชีย ที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ่ส่งผลให้ทั่วโลกมีอากาศที่ร้อนขึ้น ก็จะทำให้ความต้องการคอยล์เย็น (Evaporator Coil) คอยล์ร้อน (Condenser Coil) และคอยล์น้ำเย็น (Chilled Water Coil) ซึ่งเป็นส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศเครื่องทำความเย็น และอุปกรณ์ถ่ายเทความร้อนและความเย็นประเภทอื่นๆที่เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพิ่มขึ้นในทุกๆประเทศ

ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อขายโรงแรมที่หาดละไม เกาะสมุย ให้กับนักลงทุนจากประเทศจีน และฮ่องกง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปการขายโรงแรมเร็วๆนี้ ซึ่งก็จะสามารถบันทึกเป็นกำไรได้ในปีนี้

นอกจากนี้บริษัทตั้งเป้าหมายจะมีรายได้ปี 59 ขึ้นไปถึง 1.8 พันล้านบาท และทะลุ 3 พีนล้านบาทในปี 60 โดยบริษัทจะเน้นบุกตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเข้าไปตั้งโรงงานผลิต คาดว่าจะเจรจาแล้วเสร็จก่อนการเปิด AEC โดยมองว่าประเทศอินโดนีเซีย ยังมีความต้องการผลิตภัณฑ์ของบริษัทอีกมาก ทั้งคอยล์เย็น, คอยล์ร้อน และคอยล์น้ำเย็น ที่ใช้เป็นส่วนประกอบใน ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และใช้เป็นส่วนประกอบในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อระบายความร้อน

"ปัจจุบันอากาศทั่วโลกแปรปรวนมากขึ้น และอากาศก็ร้อนขึ้นด้วย และเราก็ถือว่าเป็นอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ที่เป็นผู้ผลิตคอยล์ การที่เราได้บุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น ทำให้เราได้มีพันธมิตรใหม่ๆที่อยู่ระหว่างเจรจาหลายราย ทั้งพันธมิตรที่ต้องการสินค้าของเรา และพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายรองรับการขยายตลาดใหม่ๆ อาทิ เช่นกลุ่มตลาดโรงงานอุตสาหกรรมที่ทุกๆโรงงานต้องการแผงระบายความร้อนไว้ใช้งาน พร้อมกันนี้เราก็ได้เจรจากับพันธมิตรในประเทศอินโดนีเซีย ที่ถือว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่ เพื่อที่จะเข้าไปตั้งโรงงานผลิต เพื่อที่จะผลักดันยอดขายให้ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ว่าจะทะลุ 3 พันล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี ต่อจากนี้"นายอารีย์ กล่าว

นายอารีย์ กล่าวถึงแผนการที่จะเข้าลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าว่า บริษัทยังมีความสนใจและติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง

เพราะมีพันธมิตรที่มีความรู้ด้านโรงไฟฟ้าทำให้เชื่อว่าจะสามารถทำราคาได้ถูกกว่ารายอื่น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างรอทางการเปิดให้ยื่นเสนอขายไฟฟ้ารอบใหม่อยู่

"เรามีพันธมิตรที่มีความรู้ด้านโรงไฟฟ้า และสามารถทำในราคาที่ถูกกว่าคนอื่น ซึ่งเราก็ยังมีความสนใจที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมหากว่ากฟผ.เปิดให้ขอ PPA ครั้งใหม่ แต่อย่างไรก็ตามเราต้องพิจารณาให้มีความเหมาะสม สามารถสร้างผลกำไรให้กับบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับขนาดกำลังการผลิต หรือรายละเอียดต่างๆนั้นยังไม่ได้กำหนด แต่เราจะไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นเดือดร้อน และเราต้องสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน"นายอารีย์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ