WAVE เจรจาร่วมทุนธุรกิจที่เกียวข้องอีก 1-2 รายคาดชัดเจนอย่างเร็วปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 28, 2015 10:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แหล่งข่าวจาก บมจ.เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (WAVE) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อร่วมลงทุนกับบริษัทที่เกี่ยวเนื่องกันประมาณ 1-2 บริษัท เป็นธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหารและสถาบันการศึกษา คาดว่าอย่างเร็วน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ และอย่างช้าก็อาจจะเป็นต้นปีหน้า เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทและตอกย้ำการเป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์แอนด์เอ็นเตอร์เทนเมนท์

สำหรับแหล่งเงินลงทุนอาจจะมาจากการกู้สถาบันทางการเงิน โดยปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E) อยู่ที่ 3 เท่า และบริษัทก็อยู่ระหว่างดูแนวทางเพื่อใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น เช่น การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งบริษัทได้ขออนุมัติผู้ถือหุ้นไว้แล้วแต่ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ซึ่งจะครบกำหนด 1 ปีในไตรมาส 1/59

แหล่งข่าว กล่าวว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปีนี้ บริษัทจะขยายสาขาธุรกิจสอนภาษา"วอลล์สตรีท อิงลิช"เพิ่มอีก 1 สาขา จาก 9 สาขาในปัจจุบัน คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่เกิน 30 ล้านบาท และธุรกิจร้านอาหารภายใต้ชื่อ"Jeffer Steak"มีแผนขยายเพิ่มอีก 5 สาขา จากปัจจุบันที่มี 76 สาขา จะใช้เงินลงทุนราว 4-5 ล้านบาท/สาขา รวมถึงมีแผนปรับเปลี่ยนทีมบริหารจัดการระบบภายในของร้าน Jeffer Steak และปรับเปลี่ยนเมนูอาหารให้มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะเริ่มเห็นรูปแบบเมนูอาหารใหม่ๆได้ในช่วงเดือน ส.ค.นี้ เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อรายได้

ด้านธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายรายการทางโทรทัศน์ และขายเวลาโฆษณาทางโทรทัศน์"เวฟ ทีวี"จะผลิตละครในปีนี้จำนวน 1 เรื่อง และน่าจะออกอากาศได้ในช่วงไตรมาส 4/58

แนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ บริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้เป็น 3,000 ล้านบาท จากเดิมคาดไว้ที่ราว 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 634.26 ล้านบาท นับเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็นผลมาจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปลงทุน 50% ใน บมจ.อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ซึ่งจะรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงไตรมาส 3/58 เป็นต้นไป ซึ่งสัดส่วนรายได้ในปีนี้จะมาจากธุรกิจสถาบันการศึกษา 30% ธุรกิจร้านอาหาร 30% และจากการเข้าลงทุนในอินเด็กซ์ฯ ราว 30% ส่วนที่เหลือจะมาจากธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนท์

"เรามองอุตสาหกรรมครึ่งปีหลังนี้จะดีกว่าครึ่งปีแรก แม้ปัจจัยภายนอกประเทศยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย แต่เชื่อว่าก็น่าจะดีขึ้น โดยเราเป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์ แอนด์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ซึ่งมีความหลากหลายทางธุรกิจ โดยในไตรมาสแรกผลการดำเนินงานของบริษัทก็ถือว่าออกมาดี อย่างธุรกิจสถาบันการศึกษาที่มีรายได้เข้ามาประมาณ 40-50 ล้านบาท ขณะที่ร้านอาหารก็มีรายได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งหลังจากนี้เราก็มีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง และเข้าลงทุนในธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท"แหล่งข่าว กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ