TSE คาดรายได้ปีนี้โต 30% จากปีก่อนตามเป้า,รุกขยายโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 11, 2015 11:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวแคทลีน มาลีนนท์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่(TSE) กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตได้ 30% จากปีก่อน ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งภาพรวมผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยมาจากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคารพาณิชย์ ซึ่งอยู่บนห้างโฮมโปรและเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ทยอยผลิตเชิงพาณิชย์(COD) เพิ่มเติมจากช่วงไตรมาส 2 อีก 3 โครงการและเหลืออีกเพียง 2 โครงการที่จะสามารถ COD ได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ โดยโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคารพาณิชย์ (Commercial Rooftop) มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 14 เมกะวัตต์ ทำให้เป็นแรงหนุนรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าของบริษัทในครึ่งปีหลัง

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตในประเทศ โดยให้ความสนใจโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบโซล่าร์ฟาร์ม กับสหกรณ์การเกษตรและหน่วยงานราชการ ซึ่งหากภาครัฐประกาศผลักดันโครงการก็สามารถดำเนินการได้ทันที

ส่วนความคืบหน้าการลงทุนโครงการโซล่าร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งโครงการที่บริษัทลงทุนเองและร่วมกับพันธมิตรในประเทศญี่ปุ่น 2 ราย มีกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 24.86 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 2,500 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์โครงการนำร่องที่จังหวัดอิบารากิ ขนาด 0.5 เมกะวัตต์ ได้ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้เช่นกัน

ส่วนปี 2559 จะทยอยจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้อีก 6 โครงการ รวม 11.01 เมกะวัตต์ ขณะที่โครงการในเมืองอาโอโมริ ขนาด 13 เมกะวัตต์ จะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 2 ของปี 2560 ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ของ TSE กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/2558 ส่งผลดีต่อภาพรวมรายได้ในครึ่งปีแรกของ TSE ที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าตามงบบริหาร (รวมสัดส่วนรายได้ของ Solar Farm) 524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าประเภท Solar Farm เต็มกำลังการผลิตตลอดไตรมาส เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่เริ่มทยอยขายไฟฟ้า ประกอบกับบริษัทสามารถ COD สำหรับโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคารพาณิชย์ ได้อีก 9 โครงการ รวม 9 เมกะวัตต์

หากพิจารณาจากงบการเงิน บริษัทมีรายได้จากการขายไฟฟ้าในไตรมาส 2/2558 จำนวน 24.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2558 ที่มีรายได้จากการขายไฟฟ้าจำนวน 15.34 ล้านบาท ประกอบกับมีแรงหนุนส่วนแบ่งกำไรจาก Solar Farm อีก 157.61 ล้านบาท สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ที่เติบโตดีนั้น มาจากความสามารถในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการผลิตกระแสไฟฟ้า ทำให้บริษัทสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้

โดยโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบ Solar Farm ที่มีกำลังการผลิตรวม 80 เมกะวัตต์ สามารถผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ยวันละ 440,000 – 450,000 kWhr หรือเพิ่มขึ้น 6-7% เมื่อเทียบกับการผลิตไฟฟ้าในช่วงไตรมาส 1 ปี 2558

ส่วนโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาอาคารพาณิชย์ ซึ่ง ณ ไตรมาส 2 สามารถ COD ได้ 9 โครงการ รวม 9 เมกะวัตต์ จากจำนวนโครงการทั้งหมด 14 โครงการ ก็สามารถผลิตไฟฟ้าได้รวมเฉลี่ยวันละเกือบ 40,000 kWhr เพิ่มขึ้นกว่าไตรมาสแรกที่ผลิตได้รวมเฉลี่ยวันละ 30,000 kWhr

"ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2558 ถือว่ามีอัตราการขยายตัวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในแง่ของปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่เพิ่มขึ้นกว่า 63% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2557 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัท ได้เป็นอย่างดี" นายธีร์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ