ขณะที่กำลังการผลิตเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ตามสัดส่วนการถือหุ้น เพิ่มขึ้นอีก 344 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าราชบุรีเวอลด์โคเจนเนอเรชั่น และโรงไฟฟ้าหงสา หน่วยที่ 1 คิดเป็นกำลังการผลิตเดินเครื่องเชิงพาณิชย์รวม 5,862.95 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ลงทุนแล้วให้แล้วเสร็จสามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้ตามแผนงาน และในปลายปีนี้จะมีโรงไฟฟ้าอีก 2 แห่ง กำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการลงทุน รวม 254 เมกะวัตต์ เดินเครื่องเชิงพาณิชย์
"บริษัทฯ อยู่ในช่วงดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ใหม่ที่ปรับเป้าหมายองค์กรไปสู่ธุรกิจพลังงานแบบครบวงจรและมุ่งเน้นต่างประเทศเป็นหลัก บริษัทฯ ยังถือเป็นหน้าใหม่ในวงการพลังงานตลาดต่างประเทศ ดังนั้น ทุกโครงการจึงต้องพิจารณาความคุ้มค่าการลงทุนอย่างระมัดระวัง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลักขนาดใหญ่ประเภท Greenfields ในประเทศเพื่อนบ้านและอาเซียน จึงต้องใช้ระยะเวลาศึกษาพิจารณาความสมดุลด้านความเสี่ยงและผลตอบแทน เพื่อให้มั่นใจในความมีประสิทธิผลของการลงทุน" นายพงษ์ดิษฐ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรก (มกราคม-มิถุนายน) ประจำปี 2558 นายพงษ์ดิษฐ์ กล่าวว่า บริษัทฯ รับรู้กำไร จำนวน 2,307.64 ล้านบาท (ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มี 4,213.19) ส่วนรายได้จากการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกมีจำนวน 30,775.99 ล้านบาท ซึ่งยังคงมาจากรายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าราชบุรีและโรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ ร้อยละ 84 เป็นจำนวน 25,872.37 ล้านบาท ส่วนที่เหลือมาจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าและเงินปันผลจาก EDL-Gen ร้อยละ 2.3 เป็นจำนวน 693.68 ล้านบาท ซึ่งยังสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการสร้างมูลค่าจากสินทรัพย์ที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพในระดับที่น่าพอใจ
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมจำนวน 97,719 ล้านบาท และมีกำไรสะสมจำนวน 46,666 ล้านบาท สำหรับกำลังการผลิตติดตั้งรวม 6,578.05 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นกำลังผลิตที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว 5,862.95 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนา 715.10 เมกะวัตต์