บล.เอเชีย เวลท์ ให้กรอบหุ้นไทยสัปดาห์นี้ 1,390-1,430 จับตาค่าเงินหยวน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 17, 2015 11:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทย(SET Index)สัปดาห์นี้น่าจะอยู่ในกรอบ 1,390-1,430 จุด และแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นปันผลสูง และหุ้นที่มีเรื่องราวชัดเจน เช่น หุ้นฟื้นตัว และหุ้นที่มีแนวโน้ม การเติบโตของกำไรสูง

ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังคงต้องติดตามผลกระทบจากมาตรการลดค่ากลางอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวน หลังจากสัปดาห์ก่อนรัฐบาลจีนได้ลดค่ากลางดังกล่าวลง 1.82% เพื่อช่วยกระตุ้นการส่งออกเนื่องจากในเดือนก.ค.ตัวเลขส่งออกของจีนหดตัว -8.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า อีกทั้งเศรษฐกิจจีนยังมีปัญหาการฟื้นตัว แม้จะมีการใช้มาตรการทั้งการเงินและการคลังอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่เห็นผล และตลาดหุ้นจีนก็ปรับลดไปมาก

ดังนั้น การที่ปล่อยให้ค่าเงินหยวนผูกค่าเงินติดกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐต่อไป จะทำให้เงินหยวน แข็งค่าตามเงินดอลลาร์ขึ้นไป เนื่องจากสหรัฐฯ ขณะนี้กำลังจะเริ่มดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจที่สวนทางกับจีน คือ การชะลอการใช้นโยบายทางการเงิน และการคลังลง โดยที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอยู่ในแนวโน้มแข็งค่าขึ้นไป หากเงินหยวนยังผูกติดกับดอลลาร์ ก็จะพลอยแข็งค่าตามขึ้นไปด้วย ตรงนี้จะส่งผลกระทบให้จีนมีความสามารถในการแข่งขันกับตลาดโลกด้านการส่งออกลดลง

ด้านผลกระทบต่อตลาดหุ้นโลก การที่จีนลดค่ากลางอัตราแลกเปลี่ยนแบบนี้ คือเป็นการกำหนด Fix rate อัตราแลกเปลี่ยนโดยรัฐบาลจีน ซึ่งจะไม่ทราบได้ว่าแต่ละวันเรทตรงนี้จะเป็นเท่าไร ทำให้ต่างชาติโดยเฉพาะประเทศที่เป็นคู่แข่งทางการค้ากับจีน มีความกังวลเรื่องความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออก เช่น ในยุโรป และสหรัฐฯ รวมทั้งประเทศอื่น ๆ และส่งผลต่อความผันผวนต่อตลาดหุ้นทั่วโลก แม้ธนาคารกลางของจีนจะกลับมากำหนดค่าเงินหยวนในวันศุกร์ในลักษณะเพิ่มค่าทำให้หยุดยั้งการอ่อนค่าลงของเงินหยวนแต่อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ ปัจจัยดังกล่าวจะยังคงเป็นตัวแปรสำคัญในการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นโลก พอสมควร

นอกจากนี้ สภาพัฒน์ฯ ได้ประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ออกมาที่ระดับ 2.8% ซึ่งเป็นไปตามตลาดคาดการณ์ แต่ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของ GDP ปี 58 เหลือโต 2.7-3.2% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 3-4% หลังมองว่าการส่งออกในปีนี้จะติดลบถึง -3.5% จากเดิมคาดว่าจะเติบโตได้ 0.2% และการนำเข้าจะติดลบ -5.5% จากเดิมคาดเติบโต 0.8% ซึ่งน่าจะส่งผลกลาง ๆ กับตลาดหุ้นไทย

สำหรับ Trading Idea สัปดาห์นี้ แนะซื้อหุ้น บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้า Functional drinks ที่เน้นการบำรุงเฉพาะเรื่อง เช่น เพื่อผลทางด้านความงาม และเพื่อสุขภาพ

SAPPE มีทั้งธุรกิจในประเทศและส่งออก ปัจจุบันมีสัดส่วนการส่งออกอยู่ที่ 60% เช่น อินโดนีเซีย และจีน ทำให้ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาท คาดการณ์การเติบโตของกำไรปีนี้และปีหน้า อยู่ที่ 20% ตาม Consensus จาก Bloomberg จึงถือว่า เป็น Growth Stock ที่น่าลงทุน และ ในช่วงไตรมาส 3 จะเป็นช่วง High season และเป็นช่วงที่จะได้กำลังผลิตอย่างเต็มที่จากโรงงานใหม่ จึงทำให้หุ้นนี้มีความน่าสนใจลงทุน โดยมีราคาเป้าหมายตามปัจจัยพื้นฐานที่ 35.62 บาท ตาม Consensus จาก Bloomberg

ด้านสัญญาณทางเทคนิค เริ่มมีสัญญาซื้อรายวัน หลังจากที่ราคาหุ้นได้ปรับลดมาจากราคาสูงสุดที่ 44 บาท และแม้ว่าปัจจุบันหุ้น SAPPE จะมีสัญญาขายในรายสัปดาห์ และรายเดือนอยู่ แต่คาดว่า อีกไม่นาน หากดูจากการเคลื่อนไหวของกราฟ สัญญาณน่าจะกลับเป็นสัญญาซื้อเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ ในทางเทคนิค มองราคาเป้าหมายแรกที่ 29.75 บาทและเป้าหมายต่อไป ที่ 32.50 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ