บลจ.กสิกรไทยลดเป้า SET ปลายปีนี้ที่ 1,400-1,450 หลังเหตุระเบิด-ศก.ชะลอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 19, 2015 15:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทย ได้ปรับลดประมาณการดัชนีหุ้นไทยปลายปีลงมาอยู่ในช่วง 1,400-1,450 จุด เนื่องจากมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจเติบโตได้ช้ากว่าที่คาด โดยเฉพาะภาคการส่งออกและการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบกับผลกระทบจากสถานการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์เมื่อค่ำวันจันทร์ ทำให้ต้องรอดูสถานการณ์ว่าจะสามารถกลับสู่ภาวะปกติได้เร็วแค่ไหนเพื่อประเมินผลกระทบในระยะต่อไป

โดยสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับกรณีการวางระเบิดบริเวณราชประสงค์ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทย ปรับตัวลดลงรุนแรงเมื่อวานนี้ แต่ล่าสุดดัชนีปิดตลาดครึ่งเช้าวันนี้อยู่ที่ 1,378.04 จุด เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 5.43 จุด หรือประมาณ 0.40% ทั้งนี้ภายหลังจากเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าว หุ้นที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างสูง คือหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว อาทิ กลุ่มโรงแรม การบินและขนส่ง โดยปรับตัวลดลงที่ประมาณ 7-10% ในขณะที่ตลาดโดยรวมปรับลดลงประมาณ 2.56%

ด้านค่าเงินบาทอ่อนค่าลงประมาณ 0.70% มาอยู่ที่ 35.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ( ณ 18 ส.ค 58) จากความตื่นตระหนกของตลาด อย่างไรก็ตามการอ่อนค่าของเงินบาทยังไม่น่ากังวลนัก เนื่องจากเป็นไปในทิศทางเดียวกับการอ่อนค่าของสกุลเงินอื่นๆในภูมิภาค "ในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยจะยังคงมีความผันผวนเนื่องจากขาดปัจจัยบวก ประกอบกับผลกระทบของเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวต่อกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย และเป็นหนึ่งในปัจจัยเศรษฐกิจเพียงไม่กี่ปัจจัยที่ยังขยายตัวได้ตั้งแต่ต้นปี การที่หลายประเทศออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวในการเดินทางมายังไทย รวมถึงการปรับลดค่าเงินหยวนของจีนในสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และส่งผลลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง ดังนั้น จากนี้ไปภาครัฐจะต้องมีการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็วขึ้นเพื่อบรรเทาผลกระทบในประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนให้กลับมา ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในระยะต่อไปไนางสาวธิดาศิริ กล่าว

นางสาวธิดาศิริ กล่าวต่อว่า ผู้จัดการกองทุนของบลจ.กสิกรไทย ได้มีการติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และมีการปรับพอร์ตการลงทุนตามสถานการณ์ที่เหมาะสม และมีความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับคำแนะนำแก่ผู้ลงทุนในช่วงนี้ เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนสูง ผู้ลงทุนระยะสั้นที่สามารถรับความผันผวนได้ค่อนข้างจำกัด ยังไม่แนะนำให้เข้าลงทุนเพิ่มเติม และควรรอติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ขณะที่นักลงทุนระยะกลางถึงยาวตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปที่สามารถรับความผันผวนได้ค่อนข้างสูง อาจมีการทยอยเข้าซื้อได้ โดยมองว่าในระยะกลางถึงยาว ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ ด้วยระดับราคาปัจจุบันที่ปรับลดลงมาค่อนข้างมากแล้ว และโอกาสปรับลดลงไปมากกว่านี้มีอยู่จำกัด ทั้งนี้หากภาครัฐสามารถเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณได้เต็มที่ และสามารถแก้ไขปัญหาความไม่สงบได้ น่าจะทำให้ภาพรวมในระยะยาวยังคงมีโอกาสเติบโตได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ