(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก เจอปัจจัยกดดันจากนอกปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 21, 2015 09:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงกันแรงราว 2% เช่นเดียวกับดาวโจนส์เมื่อคืนที่ผ่านมาก็ปรับตัวลงแรง ทั้งนี้มีปัจจัยกดดันจากสงครามในเกาหลี และกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)รายงานว่ามีความกังวลเศรษฐกิจทั่วโลก

ด้านปัจจัยในประเทศก็น่าจะเรียกความเชื่อมั่นได้ระดับหนึ่งจากการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ชุดใหม่ แต่ Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติยังขายต่อเนื่อง ซึ่งตลาดฯไม่น่าจะฝืนกระแสได้

พร้อมให้แนวรับ 1,362-1,340 จุด โดยให้จับตาแนวรับ 1,362 จุดถ้ายืนไม่ได้ก็อาจจะปรับตัวลงแรง ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,380 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(20 ส.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,990.69 จุด ร่วงลง 358.04 จุด(-2.06%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,877.49 จุด ดิ่งลง 141.56 จุด(-2.82%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,035.73 จุด ลดลง 43.88 จุด(-2.11%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 322.18 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 54.33 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 87.86 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 51.76 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 48.20 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 13.76 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(20 ส.ค.58) อยู่ที่ 1,372.53 จุด ลดลง 6.59 จุด (-0.48%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,700.42 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ส.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(20 ส.ค.58) ปิดที่ 41.14 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 34 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(20 ส.ค.58)ที่ 5.50 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเช้านี้เปิด 35.63 ทรงตัวแต่แนวโน้มยังอ่อนค่า มองกรอบ 35.60-35.70
  • นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า ภาคเอกชนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้เข้าหารือกับภาครัฐเกี่ยวกับ การใช้มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หลังจากที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว หากไม่มีมาตรการออกมากระตุ้นในช่วง 4-5 เดือนสุดท้ายของปีนี้สถานการณ์น่าเป็นห่วง โดยมองว่าอสังหาริมทรัพย์มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องอยู่จำนวนมากที่สามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
  • ธปท.เผยเอ็นพีแอลในระบบเพิ่มขึ้น 1.33 หมื่นล้านบาท เฉพาะกลุ่มธุรกิจค้าปลีก-ส่งมียอดเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 5.38 พันล้านบาท ตามมาด้วยธุรกิจผลิตและอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล พบลูกหนี้รายใหม่ก่อตัวในธุรกิจบริการมากสุด เช่นเดียวกับลูกหนี้รีเอ็นทรีพบมากธุรกิจการผลิต พร้อมกันนี้ภาคธุรกิจโดยรวมมียอดปรับโครงสร้างหนี้ 6.2 พันล้านบาท เฉพาะธุรกิจอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลเลือกใช้วิธีนี้ถึง 3.75 พันล้านบาท รวมถึงยังใช้วิธีอื่นๆ หวังให้หนี้ลดลงเพิ่ม
  • ฟิทช์เรทติ้งส์ประเมินแนวโน้มการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในระยะต่อไป พร้อมๆ กับการออกตราสารหนี้-REITs ระดมทุน แนะเป็นโอกาสดีสำหรับเข้าลงทุนระยะยาว เพื่อเพิ่มผลตอบแทน-กระจายความเสี่ยง
  • สศก.คาดการณ์ผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์ กระทบภาคเกษตรเล็กน้อยและแค่ในระยะสั้นเท่านั้น โดยเฉพาะกำลังการบริโภคผลไม้จากนักท่องเที่ยวชาวจีน
  • กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เผย คริส เอ็นเนอร์ยี่ บริษัทสัญชาติสิงคโปร์ เจอน้ำมันดิบที่แหล่งวาสนาในอ่าวไทยแล้ว หลังขอสัมปทานไปเมื่อปี 2548 ตั้งเป้าเพิ่มอัตราผลิต เป็น 2,000 บาร์เรลต่อวัน ภายใน ส.ค.2558 ชี้มีสำรองสูงใช้ได้ถึง 7 ปี ด้าน สนพ.กางแผนขยายสายส่งไฟฟ้าขนาด 500 กิโลโวลต์ รองรับพลังงานทดแทน ระบบมี 6 สายทางต้องเร่งดำเนินการ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ADVANC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"สะสม"เป้า 290 บาท คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มสื่อสารใน 2H58 และมีปัจจัยบวกรออยู่ โดยคาดว่า กสทช.จะประกาศร่างประมูลใบอนุญาต 4G ในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 26 ส.ค. และสร้างความมั่นใจให้กับตลาดว่าการประมูล 4G จะเป็นไปตามกำหนดการในเดือน พ.ย. 2558 โดย ADVANC มีความพร้อมสูงสุดในการเข้าประมูลใบอนุญาต 4G จากฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยคาดว่า ADVANC จะชนะการประมูลคลื่น 900MHz และ 1800 MHz อย่างละ 1 ใบ พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +8.6% yoy เป็น 39,113 ล้านบาท
  • กลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้างมีแรงเก็งกำไรต่อ(ฟินันเซีย ไซรัส)ดัชนีกลุ่มรับเหมาเป็นกลุ่มเดียวที่ปรับตัวบวกได้นับตั้งแต่เหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ 17 ส.ค. (Contractor +0.4% vs. SET -2.6%) โดยรายชื่อครม.ชุดใหม่ที่ประกาศวานนี้เป็นไปตามโผ มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกฯดูแลงานด้านเศรษฐกิจ ส่วนรมว.คลัง มีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงที่ KTB และ SCB แทนนายสมหมาย ภาษี อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้จะยืนได้ต่อไปยังขึ้นอยู่กับนโยบายเศรษฐกิจของทีมครม.ชุดใหม่
  • CPALL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อสะสม"เป้า 54 บาท ผลกระทบจากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ค่อนข้างจำกัดเพราะสาขา 7-11 กระจายอยู่ทั่วประเทศ และส่วนใหญ่เป็นของกินของใช้ ซึ่งจะเป็นบวกหากมีการซื้อตุนเพื่อทานที่บ้าน แทนการทานอาหารนอกบ้าน แนวโน้มยอดขายสาขาเดิมใน 2H15 น่าจะดีต่อเนื่อง คาดเพิ่มขึ้น 1-3% จากฐานต่ำในปีก่อน ส่วนดีลขาย MAKRO ผู้บริหารยังยืนยันต้องการขายไม่ต่ำกว่าทุน (41-45 บาท/หุ้น) แต่รอประเมินเวลาอีกครั้ง
  • PLANB (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 6.60 บาท กำไรสุทธิ 2Q15 เติบโตสูง 141% Q-Q และ 161% Y-Y และดีกว่าคาด จากการเติบโตของรายได้ทุกสื่อโดยเฉพาะสื่อดิจิตอล ซึ่งเป็นรายได้หลักมีสัดส่วน 45% เชื่อว่าการพัฒนาสื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย จะทำให้ PLANB ขยายตัวสวนเศรษฐกิจ ประกอบกับการรับรู้รายได้จาก Hello Bangkok และจากช่องทางอื่นเพิ่มขึ้น เช่นการให้บริการ Wi-fi บนรถบัส 500 คัน และรายได้โฆษณาบนตู้ "บุญเติม" ปรับกำไรปกติปีนี้ขึ้น 10% เป็นโตก้าวกระโดด 104% Y-Y แต่ EPS +52% Y-Y จากผล Dilution
  • CK (โกลเบล็ก)เป้า consensus เฉลี่ย 31 บาท backlog ปลาย Q2/58 อยู่ที่ 8 หมื่นล้านบาทซึ่งจะรองรับรายได้อย่างน้อยอีก 3 ปี ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการประมูลงานอีก 1.92 แสนล้านบาท คาดรถไฟฟ้าสายสีส้มมูลค่า 9 หมื่นล้านบาท รถไฟรางคู่มูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาทจะเปิดประมูลได้ก่อนเนื่องจากผ่าน EIA และมีการประกาศเงื่อนไขต่างๆ(TOR) แล้วส่วนงานที่เหลือยังรอประกาศ TOR อยู่ ทาง CK คาดว่าจะได้งานประมาณ 25-30% และทางบริษัทพยายามลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่เพื่อลดค่าซ่อมแซม และลดต้นทุนทางการเงินโดยทยอยออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพราะในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ