NCH ปรับลดเป้ายอดขายปีนี้เหลือ 2.7 พันลบ.หลังลดจำนวนโครงการเปิดใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 3, 2015 12:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ซี.เฮาส์ซิ่ง (NCH) เปิดเผยว่า บริษัทฯปรับลดยอดขายปีนี้เหลือเติบโตได้ราว 2.7 พันล้านบาท จากเดิมที่คาดจะทำได้ 3 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯมีการปรับลดการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้เหลือเพียง 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 2.2 พันล้านบาท

ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทฯเปิดโครงการไปแล้วจำนวน 1 โครงการ มีมูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท และจะเปิดอีกในครึ่งปีหลังนี้จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 1.5 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์โดยรวมจะดีกว่าในครึ่งปีแรก เนื่องด้วยเป็นไปตามฤดูกาล และนโยบายของภาครัฐที่น่าจะเข้ามากระตุ้นกำลังซื้อได้พอสมควร

"การเติบโตของยอดขายปีนี้จะมีสัดส่วนยอดขายมาจากโครงการแนวราบ 80% และคอนโดนิเนียม 20% โดยครึ่งปีหลังนี้เราก็มีการจัดแคมเปญและออกโปรโมชั่นเพื่อคืนกำไรให้กับผู้บริโภค และกระตุ้นยอดขายในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งเรามีแผนที่จะเปิดโครงการบ้านเดี่ยวอีกจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ปากเกร็ด-ราชพฤกษ์ รวม 128 ยูนิต มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท และโครงการธัญญานี โฮมออนกรีน วิลเลจ 3 บ้านหรูริมสนามกอล์ฟ รวม 107 ยูนิต มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท"นายสมนึก กล่าว

สำหรับอัตราการปฎิเสธสินเชื่อปีนี้จะอยู่ในระดับต่ำ หรือมาอยู่ที่ 10-20% เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมที่มีอัตราการปฎิเสธสินเชื่ออยู่ที่ 20-30% เนื่องจากบริษัทฯมีการควบคุมการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และเน้นผู้ที่ต้องการซื้อเพื่อพักอาศัยจริง

ขณะที่ รายได้ปีนี้คาดว่าจะทำได้ 2.2 พันล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่ 1.84 พันล้านบาท จากปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) 1,000 ล้านบาท จะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ได้ราว 500 ล้านบาท

ส่วนกำไรสุทธิก็น่าจะดีกว่าปีก่อน จากปีก่อนทำได้ 114.07 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิ 76 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และครึ่งปีหลังก็น่าจะเติบโตได้ 100% เช่นกัน โดยจะยังรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิให้ไม่ต่ำกว่า 7% และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 30%

ทั้งนี้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงครึ่งปีหลังนี้ คาดว่าจะทยอยปรับตัวดีขึ้นจากครึ่งปีแรกโดยเฉพาะตลาดระดับกลางและระดับบนที่มีกำลังซื้อในเกณฑ์ดี ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เร่งเปิดโครงการมากขึ้น ประกอบกับยังมีปัจจัยบวกเรื่องอัตราดอกเบี้ย และการเร่งก่อสร้างโครงสร้างโครงข่ายคมนาคมของรัฐบาล ที่จะช่วยกระตุ้นลาดอสังหาริมทรัพย์

นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในต่างประเทศ เพื่อร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงยืนยันว่าไม่มีนโยบายขายกิจการ แต่เปิดโอกาสให้สำหรับผู้ที่สนใจเข้ามาลงทุนเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกันมากกว่า ซึ่งปัจจุบันก็มีผู้เข้ามาเจรจาอยู่ด้วยกันจำนวนหลายราย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ