อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมาย 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 233.02 ล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ (Backlog) 70 ล้านบาทที่จะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังราว 50 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระยื่นเสนอราคางานมูลค่าราว 100 ล้านบาท ซึ่งมีความมั่นใจว่าจะได้งานไม่ต่ำกว่า 50% และจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 50 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างประมูลงานวางระบบภาครัฐมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะรู้ผลการประมูลในช่วงปลายปีนี้
"ปีนี้งานต่างๆมีการชะลอตัวไปค่อนข้างมาก ทำให้มีการแข่งขันด้านราคาสูง ทำให้กำไรสุทธิไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่อย่างไรก็ตามเรายังมั่นใจรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะเรามีงานในมือพร้อมจะรับรู้รายได้ และยังมีการเสนองานใหม่ๆในช่วงครึ่งปีหลังที่จะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังทันทีด้วย จะทำให้ครึ่งปีหลังผลประกอบการออกมาดีกว่าครึ่งปีแรกค่อนข้างมาก ซึ่งเรามุ่งเน้นการเข้ารับงานภาครัฐฯมากขึ้น โดยปีนี้เราคาดว่าสัดส่วนรายได้จากภาครัฐฯจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% จากปีก่อน 10%"นายวิรัตน์ กล่าว
นายวิรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทจะมีการเปิดตัวธุรกิจใหม่ คือ การให้บริการสำรองข้อมูลผ่านระบบ cloud เพื่อขยายฐานลูกค้าภาคเอกชนหวังเป็นอีกหนึ่ง ช่องทางที่จะช่วยสร้างรายได้ให้มีความต่อเนื่องและมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยจะใช้ลงทุนราว 5-10 ล้านบาท