(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ย่อตัวลงตามตลาดตปท. เหตุกังวลปัจจัยจากภายนอกปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 23, 2015 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะย่อตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ๋จะติดลบเฉลี่ยราว 1% หลังจากที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าเร็ว เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับนโยบายทางฝั่งสหรัฐฯ และยูโรโซน

โดยคืนนี้ทางประธาน ECB อาจจะแถลงนโยบายการผ่อนคลายทางการเงินได้ ซึ่งก็น่าจะทำให้เงินยูโรอ่อนค่าลง และในคืนวันพฤหัสนี้ทางประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ก็จะมีแถลงการณ์ ซึ่งก็คาดว่าในปีนี้น่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง ดังนั้นจึงน่าจะเป็นผลทำให้เกิดเงินทุนไหลออกอีกครั้ง นอกจากนี้ ตัวเลข PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนเช้านี้ประกาศออกมาก็อยู่ในระดับ 47.5 ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,370-1,364 จุด ส่วนแนวต้าน 1,387-1,393 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(22 ก.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,330.47 จุด ร่วงลง 179.72 จุด(-1.09%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,756.72 จุด ลดลง 72.23 จุด(-1.50%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,942.74 จุด ลดลง 24.23 จุด(-1.23%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 47.90 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 267.11 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 55.10 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 21.73 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 8.89 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 8.51 จุด

ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(22 ก.ย.58) 1,379.32 จุด ลดลง 13.41 จุด (-0.96%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 140.13 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ก.ย.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(22 ก.ย.58) ปิดที่ 45.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 85 เซนต์ หรือ 1.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(22 ก.ย.58)ที่ 8.61 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 36.10/12 แนวโน้มยังอ่อนค่า กรอบวันนี้ 36.00-36.25
  • ครม.เห็นชอบนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษรวมกลุ่ม ซูเปอร์คลัสเตอร์ ทั้งมาตรการลดหย่อนภาษีสูงสุด 15% และสิทธิประโยชน์ที่ไม่เกี่ยวข้อง ทั้งพิจารณาให้ถิ่นที่อยู่ถาวรสำหรับผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับนานาชาติ อนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อประกอบกิจการที่ได้รับการส่งเสริม "สมคิด" จีบญี่ปุ่นลงทุนรถไฟขนส่ง สินค้าสายมาบตาพุด-กาญจนบุรี หวังเชื่อมต่อไปยังเขตศก.พิเศษทวาย เตรียมควงเอกชนไทยบุกญี่ปุ่นเดินทางไปโรดโชว์ ปลาย ต.ค.นี้หรือต้น พ.ย.
  • พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้เพิ่มมูลค่าโครงการที่จะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการของรัฐ (พีพีพี) โดยให้เปลี่ยนแปลงโครงการลงทุนที่ต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.พีพีพี จากวงเงิน 1,000 ล้านบาท เป็น 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้การลงทุนคล่องตัวขึ้น
  • กลุ่มโรงกลั่นน้ำมันจ่อหารือ ก.พลังงานทบทวนการสำรองน้ำมัน ตามกฎหมาย และราคาก๊าซหุงต้มที่รับซื้อจากหน้าโรงกลั่น ชี้ไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการ โรงกลั่น โดยเห็นว่าการสำรองน้ำมันระหว่างผู้ค้าม.7 กับโรงกลั่นควรมีสัดส่วนเท่ากันที่ 3.5% และราคาแอลพีจีที่รับซื้อจากโรงกลั่นควรอยู่ที่ราคาตลาดตะวันออกกลาง (ซีพี) จากปัจจุบันขายอยู่ที่ราคาซีพีลบ 20 เหรียญสหรัฐ/ตัน
  • นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หากหนี้ที่ปล่อยกู้กลุ่มสหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) รวม 53,346 ล้านบาท กลายเป็นเอ็นพีแอลจะทำให้ยอดเอ็นพีแอลของระบบธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 2.46% ของสินเชื่อรวมในเดือน ก.ค. เป็น 2.86% ซึ่งเป็นการคำนวณเบื้องต้น และถือเป็นระดับที่ ธปท.ยังยืนยันว่าไม่ได้กระทบเสถียรภาพของระบบการเงิน เพราะธนาคารทุกแห่งกันสำรองไว้สูงแทบจะครอบคลุมวงเงินหนี้แล้ว

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KOOL (บมจ.มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล) เทรดวันนี้วันแรก ราคาขาย IPO ที่ 1.80 บาท/หุ้น บล.ทรีนีตี้ ประเมินราคาเป้าหมายปี 2559 ไว้ที่ 2.50 บาท อิง PER 19 เท่า จากค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมเครื่องใช้ในครัวเรือนและสำนักงานย้อนหลัง 3 ปี โดยประเมินกำไรปี 2558 อยู่ที่ราว 45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 43.4 ปี 2559 จำนวน 63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.7

KOOL เป็นผู้จัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์พัดลมไอเย็น พัดลมไอน้ำ พัดลมอุตสาหกรรม และพัดลมระบายอากาศ ภายใต้ตราสินค้า “MASTERKOOL" และ “Cooltop" และให้บริการเช่าใช้ผลิตภัณฑ์ และออกแบบติดตั้งระบบระบายความร้อนภายในโรงงาน คาดในปี 2558-2560 กำไรโตเฉลี่ยร้อยละ 47 ต่อปี จากการขยายช่องทางการขายใหม่และช่องทางเดิม ซึ่งบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมต่อกลุ่มลูกค้าหลากหลาย การขาย IPO ครั้งนี้จะสนับสนุนเป็นเงินทุนในการสร้างคลังสินค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

  • BIG(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 1.60 บาท ที่ประชุมบอร์ดมีมติล้างส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นโดยลดพาร์จาก 0.25 บาทเหลือ 0.10 บาท การทำเช่นนี้เพื่อเปิดช่องในการจ่ายปันผลเพราะปีนี้มีแนวโน้มทำกำไรได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เราคาด 270 ล้านบาท เพิ่มถึง 97% Y-Y ทั้งนี้ ต้องรออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น (22 ต.ค. 2015) ซึ่งเชื่อว่าไม่มีปัญหา เราคาด BIG จะจ่ายปันผล 0.03-0.04 บาท/หุ้น คิดเป็น Yield 2-3%
  • AOT(โกลเบล็ก)เป้า Consensus เฉลี่ย 333 บาท คาดรายได้และกำไรเติบโตขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยสสท.คาดนักท่องเที่ยปี 2558 +13% เป็น 28 ล้านคน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ส่วนโครงการสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 โดยผ่าน EIA แล้วคาดเปิดประมูลได้ภายในปี 59 ช่วยหนุนต่อรายได้และกำไรในอนาคตเนื่องจากจะรองรับผู้โดยสารได้ 85 ล้านคน/ปี นอกจากนี้ ได้อนุมัติเก็บค่า Fee ระบบคัดกรองผู้โดยสาร 35 บาท/เที่ยว/คน เฉพาะผู้โดยสารระหว่างประเทศ คาดมีรายได้เพิ่ม 120 ล้านบาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ