(เพิ่มเติม) บลจ.กรุงศรี ตั้งเป้า AUM สิ้นปี 3.3 แสนลบ. ออก RMF 2 กองใน Q4/58 หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 24, 2015 15:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสุภาพร ลีนะบรรจง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.กรุงศรี (KSAM) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ามูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ในปี 58 เพิ่มมาที่ 3.3 แสนล้านบาท จากปีก่อน 2.72 แสนล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัทมี AUM รวมอยู่ที่ระดับ 3,001,000 ล้านบาท อาจจะยังต่ำกว่าเป้า เนื่องจากมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเช่นเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ ทำให้ตลาดหุ้นปรับลดลง แต่เชื่อว่าเมื่อถึงสิ้นปีน่าจะได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4/58 บริษัทมีแผนจะออกกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) อีก 2 กอง และช่วงปลายปีจะมีแรงซื้อจากกองทุน LTF-RMF เข้ามาเพิ่ม

ประกอบกับ บลจ.กรุงศรีมองดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) สิ้นปีน่าจะขึ้นไปแตะ 1,440 จุด ก็น่าจะช่วยสนับสนุนให้ AUM ไปถึงเป้า โดยมุมมองต่อตลาดหุ้นในอีก 12 เดือนข้างหน้า มอง SET index ที่ระดับ 1,636 จุด เพิ่มขึ้น 23.35% กำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโต 12.6% จากปีนี้เติบโต 12.5% ขณะที่ให้เป้าหมาย SET Index ในปี 59 ระดับสูงสุดที่ 1,711 จุด แต่อาจจะมีการทบทวน ซึ่งต้องรอดูผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลประกอบออกมาสำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ กลุ่มหุ้นที่จะได้รับประโยชน์ คือ ธนาคารพาณิชย์ ภาคก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์

"มุมมองหุ้นไทยปีนี้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว 1,302 จุด จากนี้ไปดัชนจะรีบาวด์ขึ้นเรื่อยๆ ให้เป้าสิ้นปี 1,440 จุด เพราะจะได้รับประโยชน์จากมาตรการต่างๆของรัฐบาล แบงก์ก็จะปล่อยสินเชื่อมากขึ้นโดยเฉพาะแบงก์รัฐ ภาคก่อสร้างได้ประโยชน์ ภาคอสังหาฯ หลังออกมาตรการช่วยเหลือ และปีนี้ดอกเบี้ยต่ำเป็นปัจจัยหนุน แต่สิ่งที่กังวลคือเศรษฐกิจจีน และส่งออกไทยที่อ่อนแอ ส่วนนักลงทุนต่างชาติที่ยังขายอยู่ แนวโน้มก็น่าจะขายลดลงแล้ว"นางสุภาพร กล่าว

สำหรับปัจจัยต่างประเทศนั้น บลจ.กรุงศรีมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)น่าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งในระยะ 1-3 เดือนหลังจากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลาดอาจผันผวนตอบรับเชิงบวกไม่มาก เพราะเป็นช่วงที่บริษัทต่างๆ กำลังปรับตัว แต่หากในระยะยาว 12-18 เดือนเชื่อว่าบริษัทต่าง ๆ จะปรับตัวได้มากขึ้น ก็น่าจะกลับมาตอบรับเชิงบวกทำให้ตลาดปรับขึ้นราว 5-10%

นางสุภาพร กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่ากระทรวงการคลังกำลังพิจารณาจะต่ออายุมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) แต่จะเพิ่มข้อกำหนดให้มีระยะเวลาถือครองเป็น 5 ปีเต็ม จากปัจจุบัน 3 ปี 2 วันว่า เป็นผลดีต่อผู้ออมที่จะทำให้รู้จักการออมมากขึ้น

"ในระยะยาวดีต่อผู้ออม ดีต่อ บลจ.และเศรษฐกิจ เหมือนรัฐบาลจะเข้าใจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่แรงซื้อ LTF-RMF ก็คงจะไปกระจุกตัว 3 เดือนสุดท้ายของปีเหมือนเดิม"นางสุภาพร กล่าว

นางสุภาพร กล่าวว่า บลจ.กรุงศรียังคงมีมุมมองที่ดีต่อการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายในขณะนี้ เพราะไม่มีสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในทุกวัฎจักรเศรษฐกิจ โดยนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นไทย แนะนำให้ทยอยลงทุนในกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ (KFSEQ) และกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ปันผล (KFSEQ-D) ที่เน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี มีศักยภาพทางธุรกิจและมีโอกาสเติบโตสูง (Growth Stock) มีแนวโน้มปรับตัวโดดเด่นในภาวะเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายการลงทุนของภาครัฐ

ในส่วนของกองทุนต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลเฮลธ์แคร์อิควิตี้ปันผล(KF-HEALTHD) กองทุนนี้ให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เพราะตั้งแต่จัดตั้งกองทุนส.ค.57 จนถึงปัจจุบันมีการจ่ายปันผลรวม 4 ครั้งแล้ว และผลตอบแทน 12.5% ต่อปี เป็นกองที่น่าจะถือและเป็นกองหนึ่งในปัจจัย 4 ซึ่งกองนี้เราจะไปลงทุนในสหรัฐฯมากที่สุดเพราะเป็นผู้ผลิตยามากที่สุดในโลก รวมทั้งผู้ผลิตโบท็อกซ์ ยาเสริมความงามด้วย รองลงมายุโรป หากปีนี้ผลตอบแทน 12.5% ในระยะยาวดีกว่าดอกเบี้ยและดีกว่าหุ้นแน่ เนื่องจากในปี 59 มีการคาดการณ์ว่าธุรกิจเฮลธ์แคร์ในสหรัฐจะเติบโต 10%

ส่วนกองทุนเปิดกรุงศรีเจแปนเฮดจ์ฟันด์ปันผล(KF-HJAPAN) การลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อย่างญี่ปุ่นส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าช่วยให้ยอดส่งออกของญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และตัวเลขเศรษฐอื่นๆ โดยเฉพาะการจ้างงานและการบริโภคปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องรวมถึงการที่กองทุนบำเหน็จบำนาญของญี่ปุ่นได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้น

นอกจากนี้ กองทุนกรุงศรียุโรปอิควิตี้(KF-EUROPE) กองทุนเปิดกรุงศรียุโรปอิควิตี้เฮดจ์(KF-HEUROPE)ที่มีนโยบายลงทุนในกองหลักคือ Alianz Europe Equity Growth Fund ก็ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจยุโรปมีสัญญาฟื้นตัวต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ