(เพิ่มเติม) "ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป"เคาะราคา IPO หุ้นละ 1.95 บาท เปิดจอง 29 ก.ย.-2 ต.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 28, 2015 14:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป(TFG) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) จำนวน 1.1 พันล้านหุ้น ที่หุ้นละ 1.95 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ให้ส่วนลดกับนักลงทุนกว่า 40% จะเปิดให้จองซื้อหุ้นในระหว่างวันที่ 29 ก.ย.-2 ต.ค.58 และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)ในวันที่ 8 ต.ค.58 นี้ โดยมี บล.เคที ซิมิโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ในครั้งนี้ ขณะที่มีผู้ร่วมจัดจำหน่ายฯได้แก่ บล.ทรีนิตี้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส บล.คันทรี่ กรุ๊ป และ บล.บัวหลวง

นายชัยภัทร ศรีสารวาจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เคที ซีมิโก้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า TFG เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตไก่และสุกร โดยดำเนินธุรกิจทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม

ประกอบด้วย 4 สายธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจไก่ ซึ่งดำเนินการเพาะพันธุ์ไก่ ผลิตและจำหน่ายเนื้อไก่ ลูกไก่ ไก่พันธุ์เนื้อ รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อไก่ ส่วนธุรกิจสุกรได้ดำเนินการเพาะพันธุ์สุกรและจำหน่ายสุกรมีชีวิต ธุรกิจอาหารสัตว์ที่มุ่งเน้นผลิตและจำหน่ายอาหารสำหรับไก่และสุกร และธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีนและเวชภัณฑ์ ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารสัตว์ และอุปกรณ์ทางการเกษตรที่ทำจากพลาสติกอีกด้วย

“เราเชื่อว่าด้วยพื้นฐานของ TFG ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตไก่และสุกรจากฐานการผลิตทั้งในไทยและเวียดนาม รวมถึงแนวทางการต่อยอดสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจด้วยการรุกขยายตลาดส่งออกและขยายธุรกิจเข้าสู่กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตอาหารแปรรูป เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่วัตถุดิบ จะช่วยผลักดันการเติบโตต่อไป จึงมั่นใจว่า หุ้น IPO ของ บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จะได้รับการตอบรับที่ดีของนักลงทุนแน่นอน" นายชัยภัทร กล่าว

TFG ยื่นคำขอเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 1,100 ล้านหุ้น (1.1 พันล้านหุ้น) หรือคิดเป็น ร้อยละ 21.57 ของจำนวนหุ้นสามัญ ที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้วเป็นจำนวน 5,100 ล้านหุ้น (5.1 พันล้านหุ้น) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้ลงทุนโรงงานผลิตไส้กรอกไก่ ปรับปรุงโรงผลิตชิ้นส่วนไก่ รวมถึงก่อสร้างฟาร์มสุกรทวดพันธุ์ฟาร์มแห่งที่สอง ก่อสร้างฟาร์มสุกรพ่อแม่พันธุ์เพิ่มอย่างน้อย 5 ฟาร์มและลงทุนในโรงผลิตชิ้นส่วนสุกร นอกจากนี้ยังลงทุนซื้อและ/หรือปรับปรุงเครื่องจักรและอาคารในโรงผลิตอาหารสัตว์ ที่มีอยู่ 2 โรงในสุพรรณบุรีและลงทุนในโรงผลิตอาหารสัตว์เพิ่มเติมอีก 1 โรง โดยส่วนที่เหลือนำไปชำระหนี้เงินกู้เพื่อลดต้นทุนทางการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไป

นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TFG กล่าวว่า บริษัทได้มุ่งการดำเนินงานแบบครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการเพาะพันธุ์ การเลี้ยง การผลิต การแปรรูปและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไก่ทั้งตัวและชิ้นส่วนไก่รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อไก่ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและความหลากหลายให้แก่ผลิตภัณฑ์ ซึ่งได้เริ่มจากผลิตภัณฑ์ไส้กรอกไก่ภายใต้ชื่อสินค้า‘ไทยอร่อย"ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาและมีแผนออกสินค้าใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง

สำหรับธุรกิจสุกรนั้น TFG มีฐานการผลิตทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม โดยครอบคลุมตั้งแต่การเพาะพันธุ์ การเลี้ยงเพื่อจำหน่ายสุกรมีชีวิต ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีฟาร์มสุกรทวดพันธุ์จำนวน 1 ฟาร์ม กำลังการผลิต 450 ตัว และจะขยายเพิ่มอีก 1 ฟาร์ม ที่จังหวัดสระแก้ว ขณะที่ฟาร์มสุกรปู่ย่าพันธุ์ มีจำนวน 7 ฟาร์ม ซึ่งเป็นของบริษัทฯ 3 ฟาร์ม และเช่าจากผู้อื่นอีก 3 ฟาร์ม และมี 1 ฟาร์มในประเทศเวียดนาม รวมกำลังการผลิตทั้งสิ้นประมาณ 8,000 ตัว ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีการเลี้ยงสุกรขุนในฟาร์มภายใต้ระบบเกษตรแบบพันธะสัญญาทั้งในไทยและเวียดนาม กำลังการผลิตมากกว่า 286,319 ตัว ซึ่งมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตอีก 3 เท่าตัวภายในสิ้นปี 60 ผ่านรูปแบบการขยายเครือข่ายเกษตรกร นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งมีกำลังการผลิต 120,000 ตันต่อเดือน เพื่อป้อนให้แก่ฟาร์มของบริษัทฯ รวมถึงจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอก

“TFG ถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารครบวงจรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจไก่และสุกรทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม ซึ่งยุทธศาสตร์ของเราต่อจากนี้จะมุ่งเน้นการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศและขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต รวมถึงรวมถึงการรุกเข้าสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปและธุรกิจปลายน้ำอื่นๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มผลักดันการเติบโตที่แข็งแกร่งต่อไป" นายวินัย กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ