นอกจากนั้น บริษัทยังต้องลุ้นว่าผลประกอบการทั้งปีจะพลิกกลับมาเป็นกำไรได้หรือไม่ หลังจากแม้ครึ่งปีแรกจะมีผลขาดทุนราว 37 ล้านบาท แต่แนวโน้มไตรมาส 3/58 น่าจะดีขึ้นบ้าง ถึงอาจจะยังเป็นบวกไม่มากนัก และเชื่อว่าครึ่งปีหลังธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ และธุรกิจแฟคตอริ่งน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ มาช่วยหนุนผลประกอบการ
"ปีนี้ผลประกอบการน่าจะเป็นบวก แม้ครึ่งแรกขาดทุน แต่ไตรมาส 3 โอเคดีขึ้นแม้จะยังไม่บวกเยอะ แต่ก็หวังทั้งปีจะเป็นบวก ซึ่งปีนี้รายได้เราโอเค แต่ค่าใช้จ่ายเราสูง เพราะภาวะเศรษฐกิจไม่ดี คู่ค้าเราก็ไม่ง่าย"นางนลินี กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงนโยบายที่จะมองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ในช่วงปี 59-60 และเปิดกว้างกับการร่วมทุนกับพันธมิตรทั้งในและนอกประเทศ โดยมีธุรกิจเป้าหมาย ได้แก่ ธุรกิจลิสซิ่ง ธุรกิจประกัน และธุรกิจพลังงาน ซึ่งบริษัทได้มีการศึกษามาแล้วในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา และบริษัทมีเงินทุนเพียงพอรองรับการขยายธุรกิจใน 3-4 ปีนี้ราว 4-5 พันล้านบาท เป็นเงินจากการเพิ่มทุน 1,500 ล้านบาทที่ขณะนี้ฝากธนาคารไว้และมีรายรับเป็นดอกเบี้ย อีกทั้งยังจะมีเงินทุนเข้ามาเพิ่มหากผู้ถือหุ้นใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัท(วอร์แรนท์) AIRA-W1 อายุ 2 ปี อีกราว 1,500 ล้านบาท และ AIRA-W2 อายุ 4 ปี อีกราว 2,000 ล้านบาท
ประกอบกับ ปัจจุบันบริษัทไม่มีหนี้ ดังนั้น จึงสามารถกู้เงินเข้ามาและรักษาอัตราส่วรนหนี้สินต่อทุน(D/E)ไม่ให้เกิน 1 เท่า ก็จะทำให้บริษัทสามารถรองรับการลงทุนในอนาคตถึง 1 หมื่นล้านบาท
"มองลิสซิ่งซึ่งมีคนมาคุยแล้วและยังเปิดกว้างอยู่ ประกันก็มีคนมาเสนอแล้ว และธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งธุรกิจพลังงานคงอีกนาน ส่วนเมื่อถึงสิ้นปี 59 จะสรุปได้ 2-3 ธุรกิจนี้หรือไม่ ก็มีโอกาส แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจด้วย แต่ตอนนี้เรามีเงินทุนอยู่แล้ว ทุกอย่างยังอยู่ในเป้า"นางนลินี กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัท ซุปเปอร์ริช อินเตอร์เนชั่นเนล เอ็กซ์เชนจ์ (1965) ขณะนี้ยังรอให้ทางซุปเปอร์ริชตัดสินใจบางอย่าง จากเดิมที่คาดว่าจะสรุปดีลได้ภายในเดือนนี้ แต่ตอนนี้ล่าช้าออกไปคาดสิ้นปีนี้คงยังไม่สามารถสรุปได้
"เนื่องจากซุปเปอร์ริชเป็นแฟมิลี่ ต้องให้เวลาเขาพอสมควร ตอนนี้ยังไม่สรุปว่าทางโน้นตัดสินใจอย่างไร อยากให้เราเข้าไปจริงหรือเปล่าหรือเข้าไปแล้วโอเคมั้ย รอให้ทางโน้นตัดสินใจ แต่เนื่องด้วยขนาดของธุรกิจ ไอร่า พร็อพเพอร์ตี้ใหญ่กว่ามาก ตอนนี้เราจะโฟกัสที่ไอร่า พร็อพเพอร์ตี้ก่อน"นางนลินี กล่าว
สำหรับบริษัท ไอร่า แอนด์ ไอฟุล ซึ่งดำเนินธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล เปิดสาขาแล้วในส่วนของสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค และในส่วนของนาโนไฟแนนซ์ ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อปี 59 ไว้ที่ 4-5 พันล้านบาท
"ปี 59 หลายธุรกิจเราจะมีรายได้เพิ่มขึ้น ไล่การโตไปเรื่อยๆ ธุรกิจใหม่ก็เกิด ขณะที่ธุรกิจเก่าก็ active ขึ้น ปีนี้เมื่อถึงสิ้นปีก็ไม่ทำให้เรากังวลมากแต่รอตัวเลขไตรมาส 3 ก่อน ทั้งปีอาจไม่ถึงเป้า เพราะมีเหตุการณ์ระหว่างปีเยอะ อาจลดลงไปบ้าง ซึ่ง core ธุรกิจยังเป็นหลักทรัพย์และแฟคตอริ่ง"นางนลินี กล่าว
ขณะที่ธุรกิจเป็นที่ปรึกษาในประเทศสิงคโปร์ ภายใต้ บริษัท ไอร่า อินเตอร์เนชั่นแนล แอดไวเซอรี่ (สิงคโปร์) นั้น มีดีลควบรวมกิจการ(M&A) ที่เซ็นสัญญาแล้ว 5 ธุรกรรม เช่น ธุรกิจอาหาร แมนูแฟคตอรี่ง โรงแรม ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มทุนต่างประเทศต้องการซื้อกิจการในไทย แนวโน้มปี 59 การทำ M&A ก็จะสำเร็จขึ้นเรื่อยๆ ทั้งกลุ่มทุนจากยุโรป อังกฤษ และญี่ปุ่นที่สนใจเข้ามาลงทุนในภูมิภาคนี้