SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,418.59 จุด ลดลง 0.04 จุด(0.00%) มูลค่าการซื้อขาย 15,277.29 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวกรอบแคบรอปัจจัยกระตุ้นใหม่ ขณะจับตาผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)พรุ่งนี้ ตลาดมีแรงขายหุ้นในกลุ่มแบงก์หลังประกาศงบไตรมาส 3/58 ออกมาอ่อนแอ แต่ยังคาดหวังแผนประมูลโครงการก่อสร้างพื้นฐานและใบอนุญาต 4G ช่วง 2-4 สัปดาห์หน้า มองภาคบ่ายยังแกว่งกรอบแคบต่อ ให้แนวรับบริเวณ 1,414 และแนวต้านที่ 1,425 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,418.59 จุด ลดลง 0.04 จุด(0.00%) มูลค่าการซื้อขาย 15,277.29 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,424.29 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,415.05 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ รอปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น โดยเฉพาะปัจจัยต่างประเทศในส่วนของผลการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังรอดูการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/58 ของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ที่จะทยอยออกหลังจากกลุ่มแบงก์ได้ทยอยประกาศออกมาเกือบหมดแล้ว รวมถึงยังรอฟังความคิดเห็นของผู้บริหารบจ.ที่จะส่งสัญญาณถึงทิศทางการเติบโตในปีหน้าด้วย
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/58 ของกลุ่มแบงก์ที่ออกมาเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ว่ามีทิศทางที่อ่อนแอลง จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น โดยธนาคารกสิกรไทย(KBANK)ที่มีกำไรสุทธิลดลง 19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ในส่วนของกำไรปกติเติบโตราว 5% แต่มีการตั้งสำรองสูงส่งผลให้กำไรสุทธิลดลง ซึ่งกดดันต่อราคาหุ้นในวันนี้ด้วย
ขณะที่หลังจากนี้นักลงทุนจะรอดูผลประกอบการไตรมาส 3/58 ของบจ.อื่นๆที่จะทยอยออกมา และจับตาการประมูลโครงการต่างๆของภาครัฐที่จะมีขึ้นในช่วง 2-4 สัปดาห์ข้างหน้าโดยในช่วงต้นเดือนพ.ย.จะเปิดประมูลโครงการรถไฟทางคู่เส้นแรกในวันที่ 5 พ.ย. และเส้นต่อมาในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ รวมถึงการเปิดประมูล 4G ที่จะเกิดขึ้นด้วย ก็เชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องให้มีความคึกคักมากขึ้น
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายในช่วงบ่าย คาดว่าดัชนีจะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ด้วยบรรยากาศเงียบเหงา วอลุ่มเบาบางเพื่อรอดูปัจจัยใหม่ๆที่จะเข้ามา โดยมองแนวรับบริเวณ 1,414 และแนวต้านที่ 1,425 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 772.88 ล้านบาท ปิดที่ 184.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 763.36 ล้านบาท ปิดที่ 468.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
IFEC มูลค่าการซื้อขาย 664.44 ล้านบาท ปิดที่ 10.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
TPIPL มูลค่าการซื้อขาย 585.28 ล้านบาท ปิดที่ 2.66 บาท ลดลง 0.04 บาท
SCI มูลค่าการซื้อขาย 565.04 ล้านบาท ปิดที่ 8.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท