(เพิ่มเติม) SENA คาดปี 59รายได้-กำไรนิวไฮ,ดัน"เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่"เข้าตลาดหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 29, 2015 17:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์(SENA) คาดปี 59 รายได้และกำไรจะทำสถิติสูงสุดประวัติการณ์ จากการรับรู้รายได้ธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มปี หลังล่าสุดเปิดตัว"เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่"ซึ่งทำธุรกิจพลังงาน พร้อมเตรียมนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นในปี 61 และมีเป้าหมายที่จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD) 100 เมกะวัตต์(MW) ใน 3 ปีข้างหน้า หวังสร้างสัดส่วนกำไร 20-25% จาก 10-20% ขณะนี้

ส่วนรายได้ในปีนี้คาดว่าจะทำได้เพียง 2.5 พันล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 2.8 พันล้านบาท หลังเลื่อนเปิด 3 โครงการ ขณะที่มียอดขายรอโอน (Backlog) 3 พันล้านบาท จะโอนในไตรมาส 4/58 กว่า 500 ล้านบาท ส่วนอีก 1.8 พันล้านบาทจะทยอยโอนในปีหน้า ด้านยอดขายปีนี้ยังเชื่อว่าทำได้ตามเป้าหมายที่ 4 พันล้านบาท เนื่องจากในช่วง 10 เดือนแรกปีนี้คาดว่าจะทำยอดขายได้ถึง 3.5 พันล้านบาท

นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร SENA เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนจะผลักดันบริษัท เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 61 โดยเป็นบริษัทที่ SENA ถือหุ้นทั้ง 100% มีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท ประกอบธุรกิจพลังงานทดแทน โดยมีบริษัทย่อยที่ถือหุ้นร่วมกับพันธมิตร 2 บริษัท ในสัดส่วน 50:50 คือ เสนา-บีกริม พาวเวอร์ และเสนา-เอท โซลาร์ ดำเนินธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม โซลาร์รูฟท็อป และรับติดตั้งแผงโซลาร์

ส่วนอีก 1 บริษัทย่อยนั้น บริษัท เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ ถือหุ้น 100% ดำเนินงานโซลาร์รูฟท็อป 750 กิโลวัตต์ในโรงงานของ SENA ที่สุขุมวิท 50

"เราก็มองว่าจะดันเสนา โซลาร์ เอ็นเนอร์ยี่ เข้าตลาดฯ ก็น่าจะช่วงปี 61 หากเราได้โซลาร์มาจำนวนมาก และผลประกอบเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งเราอยากลดความสับสนของนักลงทุน เพราะบางทีเขาอาจจะถามว่ารายได้ของ SENA ที่สร้างการเติบโตแท้จริงมาจากอสังหาฯ หรือพลังงานทดแทนกันแน่ ส่วนอีกเหตุผลที่จะเอาเสนา โซลาร์ฯเข้าตลาด เพราะเป็นธุรกิจที่จะต้องใช้เงินลงทุนมาก การเข้าตลาดก็จะเป็นวิธีที่ช่วยระดมทุนอีกทาง"นางเกษรา กล่าว

ทั้งนี้ บริษัท เสนา โซลาร์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 100 เมกะวัตต์ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันมี 50 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โซลาร์ฟาร์มที่ร่วมกับบีกริมฯ 46.5 เมกะวัตต์ จะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือน ธ.ค.นี้ และโซลาร์รูฟท็อปที่โรงงานของบริษัท 750 กิโลวัตต์ ได้ COD ไปแล้วในเดือน มิ.ย.58

ส่วนที่เหลืออีก 50 เมกะวัตต์จะมาจากโซลาร์ภาคเอกชน 20 เมกะวัตต์ และโซลาร์ราชการและสหกรณ์อีก 30 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการรอประกาศผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขายไฟฟ้า (PPA) ของโซลาร์ราชการและสหกรณ์ โดยจะทราบผลในช่วงปลายปีนี้ และมีกำหนดจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในเดือน ก.ย.59

นางเกษรา กล่าวว่า ในปี 59 บริษัทจะรับรู้รายได้และกำไรจากกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ 50 เมกะวัตต์เข้ามาเต็มปี คาดว่าจะทำรายได้ 300 ล้านบาท และกำไร 50 ล้านบาท โดยสัดส่วนกำไรจากธุรกิจพลังงานทดแทนในปัจจุบันคิดเป็น 15-20% ของกำไรทั้งหมด และหาก COD ไฟฟ้าได้ครบตามแผน 3 ปีข้างหน้า 100 เมกะวัตต์จะส่งผลให้สัดส่วนกำไรของธุรกิจพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นเป็น 20-25%

"การที่บริษัทรับรู้รายได้และกำไรจากโซลาร์เต็มปีในปีหน้าจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้สูงขึ้นไปอย่างก้าวกระโดดทะลุ 3 พันล้านบาท ทำสถิตสูงสุดใหม่ หนุนให้กำไรสุทธิในปี 59 ทำสถิติสูงสุดใหม่ตามไปด้วย"นางเกษรา กล่าว

ขณะที่ปีนี้ บริษัทยอมรับว่ารายได้จะทำได้ราว 2.5 พันล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2.8 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเลื่อนเปิดบางโครงการออกไป ประกอบในช่วงที่ผ่านมาลูกค้าชะลอการโอน หลังเศรษฐกิจไทยชะลอตัว ทำให้ความมั่นใจลดลง และธนาคารพาณิชย์เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบต่อยอดโอนโครงการของบริษัท

แต่ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีแนวโน้มที่ดีในเรื่องการโอนหลังจากภาครัฐประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าหันมาทยอยโอนมากขึ้น โดยไนไตรมาส 4/58 บริษัทจะมีการโอนโครงการให้กับลูกค้าอีกมากกว่า 500 ล้านบาท จากยอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีอยู่ในปัจจุบันราว 3 พันล้านบาท ส่วนในปี 59 จะทยอยโอนอีก 1.8 พันล้านบาท

"ในตัวกำไรปีนี้ก็ยังต้องลุ้นๆว่าจะดีหรือใกล้เคียงกับปีก่อนไหม เพระว่าต้องดูตัวโซลาร์ว่าจะมีกำไรเข้ามาอีกเท่าไหร่ และตัวกำไรจากเอท โซลาร์ ที่จะรับรู้มาเป็นกำไร 40 ล้านบาทในปีนี้ จาก Backlog 300 ล้านบาท"นางเกษรา กล่าว

ด้านยอดขายพรีเซลล์ของ SENA ในปีนี้ยังมั่นไจทำได้ตามเป้า 4 พันล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือของปีจะได้มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์เข้ามาหนุนนอดขาย โดยบริษัทมีสต๊อกที่เข้าเกณฑ์มาตรการของภาครัฐอยู่ที่ 1-2 พันล้านบาท ซึ่งจะเข้ามาเสริมยอดขายพรีเซลล์ของบริษัทให้เป็นไปตามเป้า แม้ว่าจะเลื่อนเปิดโครการใหม่ไป 3 โครงการออกไปจากปีนี้ ขณะที่ยอดขาย 10 เดือนคาดว่าจะอยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ