APCO เล็งเพิ่มช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านร้านยาฟาสซิโน ในพ.ย.นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 12, 2015 12:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ (APCO) เปิดเผยว่า ในเดือนพฤศจิกายนนี้ บริษัทฯเตรียมเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านร้านยาทั่วประเทศ ในร้านยาฟาสซิโน (Fascino) จำนวน 80 สาขาทั่วประเทศ โดยผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย มี 5 ผลิตภัณฑ์ คือ 1.น้ำมังคุด Th Balance 2. BIM A สำหรับโรคข้อเข่าเสื่อม 3.BIM D สำหรับโรคเบาหวาน 4.BIM E สำหรับการดูแลสายตา 5.Balanc สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและสร้างภูมิต้านทาน โดยภายในไตรมาส 1/59 บริษัทจะประเมินยอดการขายว่าควรขยายการจำหน่ายเพิ่มในร้านยาอื่นๆทั่วประเทศหรือไม่ ถ้าผลเป็นที่พึงพอใจ ก็จะเริ่มขยายการจำหน่ายในร้านยาอื่นๆ ในไตรมาส 2/59

ส่วนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศ บริษัทอยู่ระหว่างการเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ช่องฟรีทีวีเพิ่มเติมจากปัจจุบันมีรายการออกอากาศผ่านทางสถานี ททบ.5 สัปดาห์ละ 4 รายการ และในช่องฟ้าวันใหม่ สัปดาห์ละ 5 วัน เนื่องจากมีกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ ซึ่งจะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ Operation BIM เรื่องข้อเข่าเสื่อม มะเร็ง และเบาหวาน ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับข้อเข่าเสื่อมมียอดขายดีที่สุด และในเดือนธันวาคมปีนี้จะเริ่มโปรโมทผลิตภัณฑ์ BIM E ดูแลสายตาเพิ่ม

นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมกับบริษัทในสิงคโปร์ เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ APCO ในช่องทางธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้น หรือ Multi-level Marketing (MLM) สำหรับผู้บริโภคในสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเกาหลี โดยตั้งชื่อบริษัทร่วมดังกล่าวว่า Asian Phytoceuticals International Limited ( API ) โดยสัดส่วนการถือหุ้น แบ่งเป็น APCO (33.3%) ผู้บริหาร APCODM (33.3%) และ ผู้บริหาร SAB บริษัทของสิงคโปร์ (33.3%)

ทั้งนี้รูปแบบการขายของ API คือ APCO ประเทศไทย จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ให้แก่ API จำหน่ายต่อให้บริษัท MLM ที่จัดตั้งอยู่แล้วใน AEC โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะนำไปจำหน่าย มี 4 ผลิตภัณฑ์ คือ น้ำมังคุด Th Balance / Arthrinok สำหรับข้อเข่าเสื่อม / BIM O สำหรับดูแลสายตา / Th 17 สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง

“ตอนนี้กำลังจดทะเบียนบริษัทกันอยู่ คาดว่าเริ่มดำเนินธุรกิจได้ในเดือนมกราคม 2559 โดยคนที่บริหารงานของบริษัท API คือ อดีตนายกสมาคมขายตรงของสิงคโปร์ (2 สมัย) ที่มีประสบการณ์ขายตรงและมีความคุ้นเคยกับบริษัทขายตรงชั้นนำของประเทศใน AEC ทั้งนี้ APCO จะได้ net margin จากการขายให้ API 60% ส่วน API ก็ได้ค่าคอมมิชชั่น 20-25% ของราคาที่ขายให้กับบริษัท MLM ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ APCO APCO จึงได้รับกำไรจากการขายถึง 2 ต่อ ทั้งใน APCO และ API" ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการร่างสัญญาบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับนักวิจัยภูมิคุ้มกันวิทยา ในมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของไทย เพื่อจัดทำโครงการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์แก่สังคมกลุ่มผู้สูงอายุ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ทั้งนี้ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ได้ในอนาคต “บริษัทเชื่อมั่นว่าภาพรวมผลประกอบการปีนี้จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 4 และผลักดันให้ภาพรวมผลประกอบการปี 2558 มีรายได้รวมใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 425.81 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 118.77 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 3/2558 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 94.89 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 21.33 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมจำนวน 112.39 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 34.31 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการ งวด 9 เดือนปี 2558 บริษัทมีรายได้ 287.49 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 63.64 ล้านบาท" นายพิเชษฐ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ