TSE จับมือพันธมิตรผุดโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นเพิ่ม 17 MW,เจรจาอีก 100-200 MW

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 3, 2015 10:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวแคทลีน มาลีนนท์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่(TSE) กล่าวว่า กลุ่มบริษัทได้เซ็นสัญญาขยายการลงทุนกับกลุ่ม Prospec Holding Inc. ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรเดิม เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบโซล่าร์ฟาร์มอีก 17 เมกะวัตต์ ที่เมือง Hanamizuki คาดว่าจะใช้เงินลงทุนพัฒนาโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท และใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี ทั้งนี้จะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์(COD) ได้ภายในปี 60 และตั้งเป้าทำรายได้จากโครงการนี้มากกว่า 200 ล้านบาท/ปี

ทั้งนี้ การขยายลงทุนดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายที่ต้องการลงทุนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไปยังภูมิภาคในเอเชียให้มากขึ้น โดยมีประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายการลงทุน ที่บริษัทต้องการรุกขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งรูปแบบโซล่าร์ฟาร์มและโรงไฟฟ้าพลังงานประเภทอื่นๆ ผ่านบริษัทย่อย TSE Group International Pte Ltd ที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ "เป้าหมายของการดำเนินงานของ TSE ในตลาดต่างประเทศ ต้องการมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และโรงไฟฟ้าพลังงานประเภทอื่นๆ ในต่างประเทศกำลังการผลิตรวม 300 เมกะวัตต์ภายใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งภายหลังการเซ็นสัญญาครั้งนี้จะทำให้ในปีนี้ TSE มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการในต่างประเทศรวมทั้งสิ้น 42 เมกะวัตต์ และบางโครงการจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ต้นปีหน้า ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่บริษัทได้วางไว้"นางสาวแคทลีน กล่าว

นางสาวแคทลีน กล่าวอีกว่า การเซ็นสัญญาครั้งล่าสุดของ TSE นั้น ถือเป็นการรุกดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่กลางปีนี้ TSE ได้จับมือพันธมิตรจากญี่ปุ่น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม Eco Solar Japan และกลุ่ม Prospec Holding Inc. ร่วมพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบโซล่าร์ฟาร์ม รวม 25 เมกะวัตต์ ที่ใช้เงินลงทุนประมาณ 2,500 ล้านบาท และสามารถทำรายได้ต่อปีอย่างน้อย 300 ล้านบาท โดยในส่วนของ 25 เมกะวัตต์นี้ จะสามารถทยอย COD ได้ ตั้งแต่ต้นปี 59

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าอีก 2-3 โครงการ กำลังการผลิตรวมกว่า 100-200 เมกกะวัตต์ โดยมีทั้งรูปแบบโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และโรงไฟฟ้าจากพลังงานประเภทอื่นๆ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงต้นปี 59 ทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าโดยรวมของ TSE เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

"เราพร้อมที่จะรุกขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในภูมิภาคเอเชีย ทั้งรูปแบบพลังงานแสงอาทิตย์และโรงไฟฟ้าจากพลังงานประเภทอื่นๆ โดยร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาโครงการเพื่อผลักดันให้ TSE ก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจพลังงานในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น และประเทศสมาชิก AEC โดยตั้งแต่ปี 59 เป็นต้นไป TSE จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการในต่างประเทศซึ่งจะเข้ามาช่วยหนุนผลการดำเนินงานของเราให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป"นางสาวแคทลีน กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ