นายสันติ หอกิตติกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.จีแคปปิตอล (GCAP) เปิดเผยว่า เบื้องต้นบริษัทคาดว่ารายได้และกำไรสุทธิปี 59 จะดีกว่าปีนี้ หลังได้เพิ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อเป็นการขยายธุรกิจและกระจายความเสี่ยง รวมถึงจะปรับสัดส่วนรายได้มาเป็นการปล่อยสินเชื่อเครื่องจักรการเกษตรที่เป็นพืชใช้น้ำน้อย และปล่อยสินเชื่อที่มีหลักประกันมากขึ้น ตลอดจนเมื่อต้นเดือนธ.ค. บริษัทได้เริ่มปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และคาดว่าปี 59 จะค่อยๆขยายตัวมากขึ้น ประกอบกับคาดว่าราคาสินค้าทางการเกษตร และสถานการณ์ภัยแล้งจะดีขึ้น
"ปีหน้าสัดส่วนรายได้จากสินเชื่อเครื่องจักรการเกษตรเกี่ยวกับนาข้าวจะลดลง จากปีนี้อยู่ที่ 80% เนื่องจากบริษัทเน้นขยายสินเชื่ออื่นๆมากขึ้น เพราะสถานการณ์ภัยแล้งส่งผลกระทบต่อชาวนาที่ไม่ได้ผลผลิตตามคาด ซึ่งการปรับพอร์ตสินเชื่อจะช่วยให้ผลประกอบการปี 59 ปรับตัวดีขึ้น"นายสันติ กล่าว
นายสันติ กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการปีนี้คาดว่าทั้งรายได้และกำไรสุทธิ จะทำได้ต่ำกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 186.22 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 59.42 ล้านบาท หลัง 9 เดือนแรกปีนี้บริษัทมีรายได้ 130.71 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 40.95 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าไตรมาส 4/58 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น ที่มีการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีก็จะส่งผลดีต่อรายได้ของเกษตรกร ซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทช่วยให้สามารถมาชำระเงินได้ ขณะเดียวกันจะส่งผลให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 12% ในช่วงปลายปี จาก ณ สิ้นไตรมาส 3/58 ที่ผ่านมา NPL ขึ้นมาแตะระดับ 15%
"ปีนี้รายได้ กำไรสุทธิของเราคงจะต่ำกว่าปีก่อน เนื่องจากผลกระทบจากภัยแล้ง และราคาสินค้าสินค้าเกษตรตกต่ำ อย่างไรก็ตามไตรมาส 4/58 จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปีนี้ เพราะเป็นช่วงของการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ช่วยให้ลูกค้ามีรายได้เพิ่ม และนำเงินมาชำระให้กับบริษัท"นายสันติ กล่าว