นายวรภัค ธันยาวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อรวมปีนี้เติบโต 3-4% หรือคิดเป็นการเติบโต 1 เท่าของการประเมินอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ที่คาดว่าเติบโต 3-4% จากการลงทุนภาครัฐที่จะสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งนี้ปัจจุบันธนาคารมีสัดส่วนสินเชื่อรายใหญ่มากกว่า 30% สินเชื่อเอสเอ็มอี 20% สินเชื่อภาครัฐ 10% และ สินเชื่อรายย่อย 30%
“ปีนี้การเติบโตของสินเชื่อรวมเรา Conservative มากขึ้นเหลือโต 1 เท่า ของ GDP จากเดิมที่ตั้งเป้าโต 1.5 ของ GDP และเราก็ไม่เน้นขยายสินเชื่อรายใหญ่ แต่เน้นไปที่การเพิ่มค่าธรรมเนียมแทน ส่วนเอสเอ็มอีเราจะขยายต่อจากปีที่แล้วที่เติบโต 30% ปีนี้ก็ 30% เหมือนกัน"นายวรภัค กล่าว
ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานของธนาคารในปีนี้มั่นใจว่าจะดีกว่าปี 58 หลังธนาคารมีการปรับเปลี่ยนการทำธุรกิจ โดยหาธุรกิจที่ให้ Yield สูงขึ้น และลดต้นทุนเงินฝาก
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปี 59 ธนาคารคาดว่าจะลดลงจากปีก่อน จากการที่พอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีไม่มีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพหนี้เมื่อเทียบกับระบบที่ NPL เพิ่มขึ้นจากพอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอี และ NPL ของสินเชื่อรายย่อยปีนี้คาดว่าจะยังทรงตัว หรือลดลงจากปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวอย่างที่คาด โดยเฉพาะจากเศรษฐกิจจีนและยุโรปที่ยังมีความผันผวน
สำหรับการตั้งสำรองของธนาคารปีนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เพื่อรักษาระดับอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ให้สูงขึ้นกว่าปัจจุบันที่ 103% ซึ่งธนาคารประเมินว่าเป็นระดับ Coverage ratio ของธนาคารที่ 103% ยังต่ำไปเมื่อเทียบกับระบบธนาคารพาณิชย์ที่ 136% แต่ก็ยอมรับว่าการที่ระดับ Coverage ratio ของ KTB จะไปถึง 136% นั้น อาจจะยังไม่เห็นในปีนี้ โดยเบื้องต้นคาดว่าต้องใช้เวลาราว 2 ปี