(เพิ่มเติม) KBANK ตั้งเป้าปี 59 สินเชื่อรายใหญ่โต 4-6%, SME โต 5-7% จากสิ้นปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 25, 2016 15:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ตั้งเป้าปี 59 สินเชื่อรายใหญ่ขยายตัว 4-6% จากสิ้นปีก่อนมียอดคงค้าง 4.68 แสนล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้าสินเชื่อเอสเอ็มอีโต 5-7% จากสิ้นปีก่อนมียอดคงค้าง 6.13 แสนล้านบาท

นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ KBANK เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อของสายงานธุรกิจลูกค้าบรรษัทที่ดูแลลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ในปี 59 เติบโต 4-6% โดย ณ สิ้นปีก่อนมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 4.68 แสนล้านบาท อีกทั้งตั้งเป้ารายได้ของสายงานดังกล่าวเติบโต 8-9% ในปีนี้ จากปีก่อนเติบโต 10% หรือมาอยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท

ส่วนสายงานธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 5-7% ในปี 59 จากปีก่อนเติบโต 7% โดยมียอดสินเชื่อคงค้างของสายงานดังกล่าว ณ สิ้นปี 58 อยู่ที่ 6.13 แสนล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้เติบโต 4-6% จากปีก่อนอยู่ที่ 4.3 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ในปี 58 เศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว ทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีเพิ่มขึ้น ซึ่งกลุ่มใหญ่ของหนี้ครัวเรือนคือบุคคลธรรมดาที่ทำการค้า เพราะรายได้ลดลงแต่ค่าใช้จ่ายไม่ลดลงตามไปด้วย โดยในปีที่ผ่านมาธนาคารได้ให้การช่วยเหลือด้านการเงิน ทั้งการพักชำระเงินต้น ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ หรือเลือกผ่อนตามรายได้ให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งการช่วยเหลือของธนาคารจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ลูกค้าและเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศ

นายพัชร กล่าวว่า ในปีนี้ธนาคารมุ่งเป้าหมายให้บริการแบบ One Stop Financial Solution แก่ลูกค้าภาคธุรกิจ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่างครบวงจรในทุกมิติ ทั้งในด้านเงินทุนที่มีต้นทุนเหมาะสม การอำนวยความสะดวกในด้านธุรกรรมทางการเงินของลูกค้าผ่านดิจิทัลแบงกิ้ง รวมทั้งสร้างเครือข่ายเพื่อให้การทำธุรกิจของลูกค้าประสิทธิภาพสูงสุด

ธนาคารจะเน้นการสนับสนุนลูกค้าในทุกห่วงโซ่ธุรกิจ(Value Chain)ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำให้ได้รับเงินทุนทั้งเงินกู้ระยะยาวและเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงการบริหารเงินทั้งขารับและขาจ่ายผ่านบริการดิจิทัลแบงกิ้ง ให้มีหลักฐานการเดินบัญชี แสดงความชัดเจนในการเคลื่อนย้ายเงินควบคู่ไปกับการเคลื่อนย้ายสินค้า ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น และยังช่วยตอบโจทย์รัฐบาลที่อยากให้เปลี่ยนพฤติกรรมจากการใช้เงินสดมาทำธุรกรรมผ่านอิเล็กทรอนิกส์

สำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ของธนาคารมีความสามารถในการระดมทุนสูง โดยดูจากอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งธนาคารก็พร้อมเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับลูกค้าในการระดมทุนผ่านตลาดทุน เช่น การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) หรือมองหาโอกาสลงทุนในต่างประเทศ โดยกว่า 90% จะลงทุนในกลุ่มประเทศ AEC+3

นอกจากนี้ ธนาคารยังเห็นแนวโน้มที่สำคัญ 3 เรื่อง คือ การระดมทุนผ่านตลาดทุนที่เพิ่มมากขึ้น เพราะความต้องการในการกู้ยืมของลูกค้ามีมากกว่าความสามารถในการให้กู้ของธนาคาร ดังนั้นการพึ่งพาการระดมทุนจากตลาดทุนจึงมีความสำคัญต่อการเติบโตของธุรก้จ นอกจากนี้ปัญหาสินค้าคงคลังล้นสต๊อกมีแนวโน้มลดลงจากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สภาพคล่องของธุรกิจดีขึ้น และการก้าวเข้าสู่สังคมดิจิทัลของประเทศไทย ต้องอาศัยความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งการขยายระบบโครงข่ายสื่อสารโทรคมให้ครอบคลุมถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ