ขณะที่บริษัทประสบความสำเร็จกับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน และคาดว่าจะมีการใช้สิทธิแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ (วอแรนท์) PSTC-W1 ได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากผู้ถือหุ้นให้ความเชื่อมั่นต่อทิศทางดำเนินงานของบริษัทจึงได้ใช้สิทธิเพิ่มทุนมากกว่าจำนวนหุ้นที่เสนอขาย โดยคาดว่าจะสามารถระดมทุนได้ประมาณ 1,100 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินจากขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 880 ล้านบาท และการใช้สิทธิแปลงวอแรนท์ PSTC-W1 ในอนาคตอีก 220 ล้านบาท และเมื่อรวมกับเงินลงทุนเดิมที่ PSTC จัดเตรียมไว้อีก 120 ล้านบาท จึงทำให้ PSTC มีศักยภาพและความพร้อมด้านเงินทุนเพื่อรุกขยายธุรกิจพลังงานทางเลือกได้ทุกรูปแบบ
"เราประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นรายเดิม (RO) ที่ผู้ถือหุ้นใช้สิทธิและเกินสิทธิมากกว่าจำนวนหุ้นที่ออกในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นที่มีต่อทิศทางการดำเนินงานของ PSTC ต่อแผนการรุกขยายธุรกิจพลังงานทางเลือกในทุก ๆ ด้านอย่างเต็มที่...บริษัทจะเร่งดำเนินการเพื่อผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ต่อไป"นายพระนาย กล่าวนายพระนาย กล่าวว่า ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นหลังเพิ่มทุนจดทะเบียน ทำให้บริษัทมีสินทรัพย์เกือบ 2,000 ล้านบาท โดยมีหนี้สินต่อทุน (D/E) เหลือเพียง 0.25 เท่า ส่งผลให้ PSTC มีขีดความสามารถในด้านขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือกได้อีกมาก หรือคิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 3,000 – 5,000 ล้านบาท เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่ PSTC ได้วางแผนไว้
ขณะที่ปี 59 นี้ PSTC คาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทมีมูลค่างานในมือกว่า 500 ล้านบาทและจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกที่จะทยอยจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้รวมอีก 7 MW เข้ามาช่วยหนุนผลประกอบการในปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมและขยะ หรือจะเป็นโครงการโซล่าร์ฟาร์มส่วนราชการและสหกรณ์ ที่ PSTC คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตอีกจำนวนหนึ่ง จะเข้ามาช่วยสร้างความเข้มแข็งในด้านผลการดำเนินงานได้ดีต่อไปในอนาคตอีกด้วย