WORK คาดกำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อน รายได้โตรับขึ้นค่าโฆษณา,ทุ่มซื้อรายการเสริมทัพ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 24, 2016 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรการ ศิริโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"โดยคาดว่า กำไรสุทธิปี 59 จะดีกว่าปีนี้ ตามรายได้ที่คาดว่าจะเติบโตมาที่ราว 3.1 พันล้านบาท โดยรายได้หลักยังมาจากช่อง Work TV ที่น่าจะสร้างรายได้ประมาณ 2,650 ล้านบาท และที่เหลือเป็นรายได้จากธุรกิจอีเว้นท์ ขณะที่ตั้งเป้าหมายเรตติ้งปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.2-.13 จากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.08
"ปี 59 เรามีการพัฒนาเพิ่มเติม โดยนำรายการเข้าไปเสริมทัพอีก ทั้งเกมส์โชว์ และวาไรตี้ เพื่อดึงเรตติ้งให้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลทำให้รายได้ของเราเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับเราไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ หลังจากที่มีการลงทุนสตูดิโอต่างๆมาแล้ว ทำให้ปีนี้น่าจะเป็นปีที่รับรู้รายได้เข้ามาเพิ่มขึ้น"นายสุรการ กล่าว

WORK ยังไม่ได้แจ้งผลประกอบการในปี 58 แต่ในช่วง 9 เดือนแรกปีที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ 155.76 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1.75 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นรายได้จากรายการโทรทัศน์มากถึง 1.53 พันล้านบาท

นายสุรการ กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 59 บริษัทได้จัดผังรายการใหม่ จากการนำรายการเข้ามาเพิ่มเติม ทั้งเกมส์โชว์ และวาไรตี้ เพื่อดึงเรตติ้งในช่วง PrimeTime (เวลา 20.00 น.) โดยที่ผ่านมาก็ได้มีการออกอากาศไปแล้ว ได้แก่ รายการ I can see your voice ที่สร้างความสนุกโดนใจคนดูด้วยการร้องเพลงรูปแบบใหม่ และ Let me in Thailand รายการที่พลิกชีวิตคนไทยในชั่วข้ามคืน ซึ่งหลักจากออกอากาศก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้รับชม อีกทั้งในช่วงเวลาอื่นๆ ก็มีการนำรายการที่โด่งดังในอดีต กลับมาออกอากาศใหม่ และทำการเปลี่ยนโฉมรายการตามยุคสมัย เช่น รายการกู้อีจู้ ,รายการเวทีทอง เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีรายการประเภทกีฬา ที่จะเพิ่มเวลาการออกอากาศมากขึ้น เช่น การถ่ายทอดสดมวยไทยทุกสัปดาห์ จากเดิมจะออกอากาศทุกเดือน และได้เพิ่มการถ่ายทอดสด กีฬาวอลเลย์บอลชุดใหญ่ รอบคัดเลือก อีกด้วย

ขณะเดียวกันบริษัทได้ปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาในปีนี้ มาที่เฉลี่ย 50,000 บาท/นาที จากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 35,000 บาท/นาที โดยมองว่าภาพรวมอุตสาหกรรมมทีวีดิจิตอลปีนี้ จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังคงเป็นสัดส่วนขนาดใหญ่ของการลงโฆษณา ขณะที่การแข่งขันก็จะมีความชัดเจนมากขึ้น ของกลุ่มทีวีที่มีเรตติ้งในอันดับต้นๆ ซึ่งบริษัทยืนยันจะสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดในอันดับที่ 3 ได้ในปีนี้ (รวมดิจิตอลและอนาล็อก)

นายสุรการ กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งงบลงทุนปีนี้ไว้ 200 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนอัพเกรดอุปกรณ์ต่างๆที่มีความเสียหาย และรองรับการซื้อฟอร์แมต รายการจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันก็อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อรายการ the mask singer ซึ่งเป็นรายการประกวดร้องเพลง โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ไม่เกินไตรมาส 3/59


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ