CI ตั้งเป้ารายได้ปี 59 โต 15%จากปีก่อน 2.7 พันลบ.,แตะ 6 พันลบ.ปี 61

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 29, 2016 11:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ. ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ (CI) เปิดเผยว่า ในปี 59 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,744 ล้านบาท และตั้งเป้าในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 61 จะมีรายได้เติบโตสูงขึ้นเป็น 6 พันล้านบาท จากปัจจุบันมีบ้านและคอนโดมิเนียมรอโอน (Backlog) ราว 3-4 พันล้านบาท

ขณะที่ในปีนี้บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 3.6 พันล้านบาทในย่านบางนาและถนนพระราม 9 ซึ่งจะเปิดชขายในไตรมาส 1/59 ถึงไตรมาส 2/59 รวมทั้งโครงการคอนโดมิเนียมที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มูลค่าโครงการประมาณ 1.8 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังทยอยขายบ้านวิลล่าติดกับโรมแรมบาบาบีช คลับ จ.ภูเก็ต ที่จะเปิดในปี 60 มูลค่าโครงการ 3 พันล้านบาท และจะเปิดให้บริการโรงแรมบาบาบีชคลับ ชะอำ ในไตรมาส 3/59

นอกจากนี้ บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัท เทียน หยวน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างใหญ่ติด 10 อันดับแรก (TOP TEN) ของจีนมาร่วมลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมใน จ.เชียงใหม่ มูลค่าโครงการ 1.2 พันล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ 6 ไร่ใกล้ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ เป็นคอนโดมิเนียม 7 ชั้น 4 อาคาร ราว 1,000 ยูนิต เฟสแรกจะสร้าง 2 อาคารแล้วเสร็จปี 60 โครงการนี้บริษัทร่วมลงทุน 70% และเทียนหยวน ถือหุ้น 30% ซึ่งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักเป็นคนจีน

นายสงกรานต์ ยังกล่าวว่า จากการที่บริษัทได้ร่วมทุนกับจุงฟาจากจีนในสัดส่วน 70:30 เพื่อลงทุนตั้งโรงแรม 5 ดาวใน จ.พังงานั้น คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จราวเดือน เม.ย.60 และทางจุงฟาได้ดึงบริษัทเข้าไปบริหารโรงแรมที่เกาะไหหลำ ใช้ชื่อแบรนด์"ศรีพันวา"สัญญาการบริหาร 20 ปี ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มเข้าไปบริหารแล้ว นอกจากนี้ ยังมีโรงแรมอื่น ๆ ในกลุ่มจุงฟา ซึ่งบริษัทได้เข้าเจรจาบริหาร ได้แก่ ในเซี่ยงไฮ้ และต้าลี่ เพราะเห็นว่าตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มไปได้ด้วยดี

"มองภาพรวมปีนี้ดีขึ้นนิดหน่อยจากปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์วันนี้เห็นการฟื้นตัว และโรงแรมที่เปิดอยู่ 3 แห่งที่ภูเก็ต ชะอำ และปากช่องก็บูมมาก เพราะได้รับอานิสงส์การท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้น ตลาดเราอยู่ที่ Tourist Mix ก็ได้รับสองทาง"นายสงกรานต์ กล่าว

ปัจจุบันโรมแรมศรีพันวา ภูเก็ต มีอัตราเข้าพักสูง 60-70% และโรงแรมส่วนต่อขยายของศรีพันวา ภายใต้ชื่อ"ฮาบิตะ"เป็นโรงแรมขนาด 30 ห้องที่เปิดให้บริการเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาก็มีผู้เข้าพักสูงถึง 80-90%

นายสงกรานต์ กล่าวว่า บริษัทมีแผนจัดตั้งกองทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์(REIT) ของโครงการโรมแรมศรีพันวา มูลค่ารวม 1.5 พันล้านบาทในไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4 ของปีนี้ มูลค่ากองทุนอสังหาริมทรัพย์เดิมที่มีขนาด 2 พันล้านบาท และตั้งเป้าเพิ่มสินทรัพย์ในกอง REIT ให้แตะ 1 หมื่นล้านบาทภายในปี 62 ทั้งนี้ หากบริษัทสามารถขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ได้ในปีครึ่งหลังปีนี้ก็คาดว่าจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลพิเศษให้กับผู้ถือหุ้น

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ CI มาจากการขายอสังหาริมทรัพย์ อาทิ บ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม ในสัดส่วน 70% และอีก 30% มาจากรายได้การเช่าและธุรกิจโรงแรม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ