สภาวิชาชีพบัญชี-กรมพัฒนาธุรกิจา-ก.ล.ต.ร่วมวางโรดแมพการเข้าสู่มาตรฐาน IFRS

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 10, 2016 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสัณห์ เชื้อพานิช นายกสภาวิชาชีพบัญชี กล่าวว่า สภาวิชาชีพบัญชี, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์, คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ร่วมกันเตรียมวางโรดแม็พเพื่อปรับปรุงยกระดับมาตรฐานการรายงานทางบัญชีของบริษัทจดทะเบียน และบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ โดยยึดตามเกณฑ์มาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ (International Financial Reporting Standards:IFRS) ที่ใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันกว่า 140 ประเทศทั่วโลก เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและง่ายต่อการรับรู้ของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะเพิ่มความน่าสนใจต่อการลงทุนในไทยมากขึ้น

ปัจจุบัน ยังมีข้อที่ควรปรับปรุงเกี่ยวกับการตีความในรายงานทางบัญชีหลายประการ เช่น การรับรู้รายได้ที่ยังไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน ซึ่งคาดว่าการปรับปรุงจะแล้วเสร็จและปรับใช้ได้ตั้งแต่ปี 62 เป็นต้นไป โดยจะบังคับใช้กับบริษัทที่อยู่นอกตลาดทั้งหมดด้วยเพื่อให้เกิดความโปร่งใส เพราะปัจจุบันพบว่ามีบริษัทนอกตลาดขนาดใหญ่กว่า 10,000 บริษัทและบางรายยังไม่ได้มีการจัดทำรายงานบัญชีที่ได้มาตรฐาน

นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า สำหรับงานไทยแลนด์ IFRS Conference 2016 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 11 มี.ค.59 ที่ โรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท กรุงเทพฯ จะมีผู้บริหารของบริษัททั้งในและนอกตลาดเข้าร่วมเสวนากว่า 300 ราย รวมถึงจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการรายงานทางบัญชีระดับโลกจำนวนมาก เพราะรายงานทางการเงิน นับเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนทั่วโลก ซึ่งนักลงทุน ผู้บริหาร และผู้ประกอบการในตลาดทุนล้วนให้ความสนใจในบทวิเคราะห์งบการเงิน ผลการดำเนินงาน และกระแสเงินสดของกิจการที่ต้องการเข้าร่วมลงทุน

ทั้งนี้ “รายงานทางการเงินที่ดี” ต้องมีรูปแบบที่อ่านและเข้าใจได้ง่าย สามารถสะท้อนรายการธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรายการซื้อ-ขายในแต่ละวัน หรือธุรกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ มีความโปร่งใส น่าเชื่อถือ และต้องมีรูปแบบตรงตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนในกิจการนั้นๆ ซึ่งประเทศไทยจะสามารถก้าวเข้าสู่มาตรฐานการรายงานทางการเงินสากลอย่างเต็มรูปแบบด้วยความภาคภูมิ

“นอกจากนี้ กรมฯ ได้มีการเชื่อมโยงมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ เข้ากับระบบนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมฯ (DBD e-Filing) ซึ่งจะทำให้นักลงทุนสามารถนำข้อมูลงบการเงินที่ได้มาตรฐานไปทำการวิเคราะห์และประเมินทิศทางแนวโน้มของธุรกิจได้ทันที นับเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ได้เปรียบคู่แข่งขันแบบทวีคูณ ซึ่งเหมาะสมกับสถานการณ์ของโลกธุรกิจในปัจจุบันที่ต้องการข้อมูลด้านต่างๆ อย่างรวดเร็ว และสามารถนำไปใช้งานได้อย่างทันท่วงที”

ในโอกาสนี้ มร.ฮันส์ ฮูเกอร์วอรสท์ ประธานกรรมการมาตรฐานบัญชีระหว่างประเทศ (IASB Chairman) กล่าวว่า ขอให้การสนับสนุนแก่ประเทศไทยที่จะก้าวสู่มาตรฐาน IFRS เพราะจะเอื้อให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่โดดเด่นน่าลงทุนในลำดับต้นๆ ของภูมิภาคเอเชียด้วย ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของ IFRS เกิดขึ้นทุกปี เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ในแต่ละปีด้วย ส่งผลให้งบการเงินที่จัดทำขึ้นตามข้อกำหนดใหม่ของ IFRS อาจเปลี่ยนไป เพื่อให้สะท้อนข้อมูลฐานะการเงิน และผลการดำเนินงานของกิจการที่แท้จริง และจะนำมาซึ่งข้อมูลที่สามารถสะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจโดยรวมได้อย่างแท้จริง

นายประสัณห์ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีเป้าหมายในการประกาศใช้ TFRS ช้ากว่า IFRS ไม่เกิน 1 ปี ซึ่งเป็นกรอบเวลาที่ใช้กันโดยทั่วไปในสากล ซึ่งการใช้ IFRS จะทำให้รายงานทางการเงินมีความโปร่งใส เปรียบเทียบกันได้ ให้กรอบในการเปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้สามารถนำไปตัดสินใจ สร้างความเชื่อมั่น ช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตของตลาดทุนไทย และนอกเหนือจากตลาดทุนแล้ว สภาวิชาชีพบัญชีก็ยังผลักดันให้บริษัทนอกตลาดทุนมีมาตรฐานการจัดทำรายงานทางการเงินที่ดี เป็นที่ยอมรับ และสามารถอ้างอิงได้ เพื่อขับเคลื่อนและสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ

“สภาวิชาชีพบัญชีมีกระบวนการที่เป็นระบบในการพิจารณา ศึกษาผลกระทบ และจัดการสัมมนาพิจารณ์เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรฐานฉบับใหม่ๆ รวมถึงการจัดให้มีการอบรมสัมมนาเพื่อให้มั่นใจว่าผู้เกี่ยวข้องมีความเข้าใจในการนำมาตรฐานไปใช้”นายประสัณห์ กล่าว

ขณะที่นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวว่า การยกระดับความน่าเชื่อถือของรายงานทางการเงินให้มีมาตรฐานเทียบเคียงกับสากล เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้ตลาดทุนไทยพร้อมสำหรับการแข่งขันในเวทีสากล และเนื่องจากมาตรฐานการรายงานทางการเงินของ IFRS มีการปรับปรุงอยู่เสมอ บจ.จึงต้องมีความพร้อมที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และจัดทำรายงานทางการเงินที่มีความน่าเชื่อถือและอยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่ายเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ลงทุน

ทั้งนี้ IFRS จัดทำขึ้นโดยคณะกรรมการมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ (International Accounting Standards Board : IASB) ซึ่งประกอบด้วยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกทวีปทั่วโลก ได้แก่ ทวีปแอฟริกา ทวีปเอเชีย-โอเชียเนีย ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือ รวมจำนวน 14 คน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ