"ภาครัฐมีนโยบายให้ราคา NGV สะท้อนต้นทุนก็จะทำให้การใช้ NGV สะท้อนความเป็นจริงมากขึ้น มีความสมดุลทั้งด้าน supply และ demand และจะทำให้เอกชนเข้ามาลงทุน NGV โดยตรงมากขึ้นด้วย ขณะที่ปตท.ก็จะเป็นผู้ขายส่งตามแนวท่อ ตอนนี้ก็เอกชนหลายมากกว่า 10 รายที่เข้ามาคุย"นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ PTT กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวว่า นอกจากนี้ปตท.ก็ยังมีการหารือกับเอกชนบางรายที่สนใจจะซื้อสถานีบริการ NGV ของปตท.เพื่อนำไปดำเนินการต่อด้วย แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเพียงพอที่จะเปิดเผยได้ ขณะเดียวกันปตท.ก็จะยังคงเป็นผู้ดูแลสถานีบริการ NGV ตามแนวท่อก๊าซธรรมชาติอยู่เช่นเดิม ซึ่งตามแผนปตท.จะก่อสร้างสถานีบริการ NGV ในปีนี้อีก 5-6 แห่ง ซึ่งจะทำให้สิ้นปีนี้มีสถานีบริการ NGV กว่า 500 แห่ง โดยในส่วนนี้รวมถึงการก่อสร้างสถานีบริการ NGV ตามแนวท่อก๊าซฯอีก 3 แห่งด้วย ซึ่งจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้ 1 แห่ง และต้นปี 60 อีก 2 แห่ง
ปัจจุบันปตท.มีสถานีบริการ NGV ตามแนวท่อก๊าซฯ 135 แห่ง ,สถานีบริการลูก 350 แห่ง และสถานีแม่ ซึ่งเป็นสถานีจ่าย NGV อีกราว 20 แห่งทั่วประเทศ ขณะที่เมื่อเดือนม.ค.รัฐบาลมีนโยบายให้ลอยตัวราคา NGV แบบมีเงื่อนไข โดยปตท.จะประกันราคาไม่เกิน 13.50 บาท/กิโลกรัม (กก.) ไปอีก 6 เดือน หลังจากนั้นราคาจะปรับขึ้นลงตามความเป็นจริง แต่ปตท.จะยังคงรับภาระดูแลราคา NGV สำหรับรถสาธารณะที่ยังคงตรึงอยู่ที่ระดับ 10 บาท/กก.ต่อไป
นายสมเกียรติ กล่าวว่า ราคาต้นทุนเนื้อก๊าซฯปรับลดลงต่อเนื่องตามราคาน้ำมันที่ปรับลงก่อนหน้านี้ จนทำให้ต้นทุน NGV ในเดือนมี.ค.ปรับลดลงมาเหลือสูงกว่าราคาที่ 13.50 บาท/กก.ไม่มากนัก ซึ่งราคาขายปลีก NGV สำหรับเดือนมี.ค.น่าจะมีการประกาศอีกครั้งในช่วงกลางเดือนนี้ อย่างไรก็ตามหากราคาต้นทุนก๊าซฯปรับลดลงอีกจนทำให้ต่ำกว่าราคาที่ 13.50 บาท/กก. ปตท.ก็พร้อมที่จะลดราคาขายปลีก NGV ลงทันทีเช่นกัน
ที่ผ่านมาปตท.รับภาระการดูแลราคา NGV เป็นหลักแสนล้านบาท และในปีที่ผ่านมาก็มีผลขาดทุนจาก NGV ราว 1 หมื่นล้านบาท แต่คาดว่าปีนี้ก็จะยังขาดทุนอยู่เพราะยังภาระดูแลราคา NGV สำหรับรถสาธารณะ แต่ในอนาคตก็เห็นว่ารัฐบาลกำลังจัดทำร่างพ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งคาดว่ากองทุนดังกล่าวจะเข้ามาช่วยดูแลราคา NGV ด้วยเช่นกันในอนาคต
สำหรับปริมาณขาย NGV ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับทรงตัวจากปีก่อนที่ 8.4-8.5 พันตัน/วัน หลังจากที่ลดลงราว 3-4% ในปีที่แล้ว หลังราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลงทำให้ผู้บริโภคบางส่วนหันไปใช้น้ำมันมากขึ้น