ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,380.20 จุด เพิ่มขึ้น 2.40 จุด (+0.17%) มูลค่าการซื้อขาย 47,662.61 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,389.77 จุด และดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,379.96 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 523 หลักทรัพย์ ลดลง 550 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 357 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก เป็นการตอบรับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มองว่าปีนี้โอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีเพียง 2 ครั้ง และได้ให้น้ำหนักไปที่ภายนอกด้วย อย่างเรื่องเศรษฐกิจโลก และความผันผวนทางการเงินของโลก ตลาดฯจึงอยู่ในทิศทางที่ดี รวมทั้งราคาน้ำมันก็ได้ปรับตัวขึ้นด้วยจากเงินดอลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง ทำให้มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มน้ำมันช่วยพยุงดัชนีฯได้ดี
อย่างไรก็ดี แนะนำให้ชะลอการลงทุน เนื่องจากได้หมดข่าวดีแล้ว ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงก็รออยู่ในสัปดาห์หน้า ในเรื่องของ JAS ว่าจะสามารถจ่ายค่าใบอนุญาต 4G คลื่น 900 MHz ได้หรือไม่ ซึ่งทางทรีนีตี้ก็คาดว่าน่าจะได้แบงก์การันตี เพราะ JAS เองก็อยากที่จะรุกธุรกิจโมบาย และเชื่อว่า JAS ยังคงเจรจากับพันธมิตรอยู่
นอกจากนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งคาดว่าจะลดอัตราดอกเบี้ย หากเป็นจริงก็อาจจะทำให้ Flow ไหลออกได้ ส่วนร่างรัฐธรรมนูญ มองว่ามีโอกาสที่จะไม่สามารถยื่นเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ทันตามที่กำหนดไว้ ทำให้การลงประชามติต้องเลื่อนออกไปด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (18 มี.ค.) นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯคงเป็นลักษณะ Wait & See พร้อมให้แนวรับ 1,360 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,669.77 ล้านบาท ปิดที่ 71.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,417.38 ล้านบาท ปิดที่ 278.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,235.02 ล้านบาท ปิดที่ 171.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,831.65 ล้านบาท ปิดที่ 3.44 บาท ลดลง 0.16 บาท
IRPC มูลค่าการซื้อขาย 1,605.99 ล้านบาท ปิดที่ 5.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท