ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,382.96 จุด เพิ่มขึ้น 2.76 จุด (+0.20%) มูลค่าการซื้อขาย 49,250.25 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,388.70 จุด และดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,376.41 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 481 หลักทรัพย์ ลดลง 527 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 373 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายวิจัย บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ ไม่มีกลุ่มใดโดดเด่นเป็นพิเศษ การลงทุนเป็นลักษณะของกระจายตัว ขณะที่หุ้นกลุ่มสื่อสาร Wait & See รอดูว่า JAS จะจ่ายค่าใบอนุญาต 4G คลื่น 900 MHz ทันเส้นตายวันที่ 21 มี.ค.นี้หรือไม่
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ต่างอยู่ในแดนบวก ขานรับผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และมีประเด็นที่ผันผวนจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงมาก แต่ตลาดหุ้นไทยไม่ได้ตอบรับมากนัก เพราะเงินบาทวันนี้ก็อ่อนค่าลงเช่นกัน คาดว่าทางการไทยคงจะเข้ามาดูแลไม่ให้เงินบาทแข็งค่าเร็วและมากเกินไป เพื่อไม่ให้กระทบต่อผู้ส่งออก
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบ 1,350-1,400 จุด โดยมีปัจจัยกระตุ้นมาจากทิศทางราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ย โดยในวันที่ 23 มี.ค.จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เนื่องจากขณะนี้ตลาดตราสารหนี้ไทยได้รับความนิยม เพราะอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าประเทศอื่นที่ส่วนอยู่ในระดับศูนย์ถึงติดลบ หาก Bond yield ต่ำลงก็จะช่วยหนุนตลาดหุ้น
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,651.93 ล้านบาท ปิดที่ 69.50 บาท ลดลง 2.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,096.44 ล้านบาท ปิดที่ 282.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
IRPC มูลค่าการซื้อขาย 1,625.27 ล้านบาท ปิดที่ 5.05 บาท ลดลง 0.05 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,611.31 ล้านบาท ปิดที่ 171.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,609.15 ล้านบาท ปิดที่ 173.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท