STEC คาดปี 59 ได้งานใหม่ไม่น้อยกว่า 3 หมื่นลบ.,เชื่อปีนี้ไม่ตั้งสำรองเพิ่มในโครงการรัฐสภาแห่งใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 30, 2016 12:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) คาดว่าปีนี้บริษัทน่าจะได้งานใหม่จากการงานประมูลไม่น้อยกว่า 3 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 20-25% ของงานโครงการภาครัฐที่จะเปิดประมูลในปีนี้ ขณะที่ในปีที่แล้วได้งานใหม่ 2 หมื่นล้านบาทต่ำกว่าที่ประเมินไว้ช่วงต้นปีว่าจะได้งานใหม่ราว 3 หมื่นล้านบาท เพราะงานภาครัฐมีความล่าช้า

แต่ปีนี้เชื่อว่างานภาครัฐจะเริ่มทยอยออกมามาก โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ที่จะเปิดประมูล 5 เส้นทาง รวมมูลค่าประมาณ 1 แสนล้านบาท โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส 2 มูลค่าโครงการ 5.1 หมื่นล้านบาท โดยได้เปิดประมูล 2 งานแล้ว และจะเปิดประมูลอีก 2 งานในเดือน เม.ย. คาดว่าปีนี้จะเปิดประมูลได้ครบทั้ง 7 งาน และยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม- มีนบุรี มูลค่างาน 9.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลในไตรมาส 2/59

ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง รวมมูลค่า 1 แสนล้านบาท แต่แยกเป็นงานโยธามีมูลค่าประมาณ 4 หมื่นล้านบาท นายภาคภูมิ กล่าวว่า บริษัทได้หารือกับบริษัทฮิตาชิจากญี่ปุ่นและจีนที่เป็นเจ้าของเทคโนโลยีรถโมโนเรลแล้ว แต่ยังต้องรอดูเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) เพื่อความชัดเจนในการร่วมมือกับพันธมิตรด้วย ขณะที่บริษัทรอเซ็นสัญญางานถนนยกระดับของกรมทางหลวง มูลค่างาน 1.3 พันล้านบาทด้วย

แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่ารายได้จะใกล้เคียงปีก่อนที่มีรายได้ 1.8 หมื่นล้านบาท เนื่องจากจะรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ช่วงต้นปีที่มี 5.5 หมื่นล้านบาท โดยจะรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 1/59 ประมาณ 4-5 พันล้านบาท ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) คาดว่าจะรักษาได้ที่ 8-9% และ 6% ตามลำดับ อย่างไรก็ดี บริษัทจะประเมินอัตรากำไรอีกครั้งในไตรมาส 2/59 เพราะยังรองานประมูลรถไฟทางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ขณะที่บางงานที่ออกมาเปิดประมูลปีนี้มีการปรับลดวงเงินลงทุนลง เช่น โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เฟส2

ส่วนงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ มูลค่าโครงการ 1.2 หมื่นล้านบาทนั้น นายภาคภูมิ คาดว่าในปีนี้จะไม่ต้องตั้งสำรองเพิ่มเติมอีก หลังจากตั้งสำรองไว้แล้วระดับหนึ่งในปีก่อน โดยบริษัทคาดว่าอัตรากำไรโครงการนี้ติดลบ 5% เนื่องจากความล่าช้าการส่งมอบพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันก็ยังส่งมอบไม่ครบ เช่น พื้นที่โรงเรียนโยธินบูรณะ แต่ปัจจุบันงานก่อสร้างมีความคืบหน้าไปแล้ว 18-19% คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 62 จากเดิมจะแล้วเสร็จในปี 59


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ