EFORL เปิดฟาร์มหอยทากเชิงนิเวศ“สยามสเนล"ดันงานวิจัยคุณภาพสู่ตลาดเครื่องสำอาง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 30, 2016 14:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน (CFO) บมจ.อี ฟอร์ แอล เอม (EFORL) เปิดเผยว่า บริษัท สยามสเนล จำกัด บริษัทย่อยที่ EFORL ถือหุ้นอยู่ 51% ได้เปิด “ฟาร์มหอยทากเชิงนิเวศ สยามสเนล" (Siam Snail Eco Farm) เป็นฟาร์มหอยทากกึ่งธรรมชาติแห่งแรกของเอเชีย ซึ่งพัฒนาจากงานวิจัยคณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มีกระบวนการผลิตเมือกหอยทากที่ครบวงจรและมีการกำกับดูแลที่ได้มาตรฐานในทุกขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการเลี้ยงหอยทากกึ่งธรรมชาติ การสร้างโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน GMP จนถึงการจัดจำหน่าย ภายในชื่อใหม่ Snail 8 (สเนล เอท) ซึ่งมีเป้าหมายสร้างแบรนด์สินค้าไทยให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานระดับโลกในรูปแบบของ Product of Thailand เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการนำวิจัยพื้นฐานสู่การเปิดบริษัท Startup/Spinoff ที่มีถือเป็นกลไกลที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ ฟาร์มหอยทากเชิงนิเวศ สยามสเนล ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 2 ถนนร่วมพัฒนา เขตหนองจอก กทม. สร้างขึ้นบนพื้นที่ 10 ไร่ ในสิ่งแวดล้อมที่จำลองให้เหมือนแหล่งอาศัยดั้งเดิมของหอยทาก มีการปรับอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมผ่านระบบออนไลน์ รวมไปถึงการให้อาหารด้วยสูตรเฉพาะ เพื่อให้ได้การผลิตเมือกหอยทากในปริมาณมาก ซึ่งฟาร์มหอยทากแห่งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นแหล่งผลิตเมือกหอยทากคุณภาพสูงเพื่อผลิตเครื่องสำอาง และส่งเป็นวัตถุดิบป้อนอุตสาหกรรมเครื่องสำอางแล้วยังมีแผนที่จะเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์หอยทากเพื่อเปิดให้เป็นศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับหอยทากสยามซึ่งมีมากว่ากว่า 600 สายพันธุ์

สำหรับปริมาณการผลิตเมืองหอยทากจากฟาร์มแห่งนี้ คาดว่าจะสามารถสกัดเมือกหอยทากได้ด้วยกำลังผลิตช่วงเริ่มต้น 2,000 ลิตร และจะสามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ 8,000 ลิตร ภายใน 5 ปี โดยในขณะนี้จะเป็นการผลิตเมือกหอยทากเพื่อผลิตเครื่องสำอางภายใต้ชื่อ Snail8 แต่ในอนาคตจะผลิตเพื่อส่งเมือกหอยทากป้อนสู่โรงงานผลิตเครื่องสำอางอื่นๆ ด้วย เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีผู้ผลิตเมือกหอยทากในเอเชียเพื่อจำหน่ายในระดับอุตสาหกรรม โดยปัจจุบันเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ สยามสเนล ยังสามารถหาซื้อได้ที่วุฒิศักดิ์ คลินิก ทุกสาขา และจะเริ่มมีแบรนด์ใหม่ Snail8 เข้ามาจำหน่ายตั้งแต่ไตรมาส 2/59 เป็นต้นไป

ปัจจุบัน Startup หรือ Spinoff ถือเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ เพราะคือธุรกิจที่มีนวัตกรรมแตกต่างจากที่เคยมีมาก่อน อีกทั้งยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะไม่ได้แต่มีการคิดค้นและวิจัยแล้วจบลงในห้องทดลอง แต่ต่อยอดไปสู่ภาคอุตสาหกรรม การเปิดฟาร์มหอยทากกึ่งธรรมชาติครั้งนี้จึงเป็นต้นแบบจากการวิจัยพื้นฐานไปสู่ Startup/Spinoff และจะเป็นต้นแบบนำร่องให้กับมหาวิทยาลัยและสถาบันต่างๆ ในการสนับสนุนนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจด้วยการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และทำไปสู่ทางรอดของประเทศในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ