THL จะเสนอบอร์ดปรับโครงสร้างลงทุน-ทำแผนธุรกิจสรุป พ.ค.เล็งรุกพลังงานทดแทน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 30, 2016 16:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิจิตร เจียมวิจิตรกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์ (THL) กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทจะมีการประชุมในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อพิจารณาปรับโครงสร้างการลงทุนของบริษัทใหม่ทั้งหมด และจัดทำแผนธุรกิจในอนาคต คาดว่าการจัดทำแผนดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค.59 โดยมีแผนจะแตกไลน์ธุรกิจออกไปยังพลังงานทดแทน ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาการเข้าลงทุนร่วมกับพันธมิตร

"หลังจากเราชำระหนี้ทั้งหมด เราจะมีการประชุมบอร์ดบริหาร เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงานในอนาคต และโครงสร้างการดำเนินงานใหม่ คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในช่วงเดือนพ.ค.นี้"นายวิจิตร กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากบริษัทได้เพิ่มทุนจำนวน 982 ล้านบาทแล้วเสร็จเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่ทั้งหมดในเดือน มี.ค.59 หลังจากผลประกอบการจะกลับมามีกำไรสุทธิ และพร้อมที่จะนำบริษัทกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

บริษัทจะทำการชำระหนี้และวางหลักทรัพย์ทั้งหมดไม่เกิน 539.32 ล้านบาท จากมูลหนี้ทั้งหมด 2,880 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ทำการชำระหนี้และวางทรัพย์ตามแผนฟื้นฟูในงวดที่ 1 เมื่อวันที่ 25 มี.ค.59 จำนวน 93.78 ล้านบาท และชำระและวางทรัพย์ในงวดที่ 2 ถึงงวดที่ 5 ตามแผนฟื้นฟูเต็มจำนวน เมื่อวันที่ 28 มี.ค.59 จำนวน 445.53 ล้านบาท เป็นการชำระหนี้เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ 5 ปีจึงจะชำระหนี้ได้หมด ดังนั้น ทำให้ผลประกอบการของบริษัทกลับมามีกำไรทันทีจากการปรับโครงสร้างหนี้

สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลังเพิ่มทุนจะมีสัดส่วนของกลุ่มผู้บริหารชุดปัจจุบัน 10%, ผู้บริหารชุดเดิม คือ กระทรวงการคลัง 1% ,ผู้ถือหุ้นรายย่อย 10%, นายวิจิตร 10% และนักลงทุนกลุ่มใหม่ที่เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ราว 69%

นายวิจิตร กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าผลประกอลบการในปีนี้จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ จากปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 120 ล้านบาท หลังจากออกจากแผนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งน่าจะเห็นผลการดำเนินงานที่เป็นบวกได้ในไตรมาส 2/59 เป็นต้นไป

ปัจจุบัน บริษัทยังมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ราว 75% และธุรกิจเหมืองไม่เกิน 30% โดยในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้มียอดขายรอโอน (backlog) อยู่ 60% ของมูลค่าโครงการใน จ.ภูเก็ต 350-400 ล้านบาท และอยู่ระหว่างพิจารณาลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการใน จ.ตาก บนเนื้อที่ 3 ไร่ คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 2/59

ขณะที่ธุรกิจเหมือง บริษัทก็มีแผนขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศในลักษณะการเข้าไปร่วมลงทุน ซึ่งก็อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในประเทศลาวเพื่อลงทุนในเหมืองทองแดง คาดหวังเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 60% คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงไตรมาส 2/59 ขณะเดียวกันก็จะเข้าไปลงทุนเหมืองดีบุกในประเทศพม่า ซึ่งบริษัทจะรับรู้กำไรในสัดส่วน 70%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ