นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ด้วยความเป็นผู้นำด้านทริกเกอร์ฟันด์และความเชี่ยวชาญในการจับจังหวะลงทุนให้สามารถตอบโจทย์การลงทุนได้ในช่วงที่เหมาะสม ล่าสุด ณ วันที่ 22 เมษายน 2559 บลจ.ทิสโก้ สามารถบริหารกองทุนเปิดทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #9 (TISCO Japan Equity Trigger Fund 9: TISCOJP9) ให้ถึงเป้าหมายที่ 8% โดย NAV มีมูลค่า 10.8367 บาทต่อหน่วยจึงเข้าเงื่อนไขการเลิกโครงการ โดยใช้เวลาบริหารกองทุนเพียง 1 เดือน 28 วัน จึงสามารถปิดกองทุนและคืนเงินให้แก่ผู้ลงทุนได้ก่อนกำหนดเดิมที่วางไว้ 8 เดือน นับเป็นทริกเกอร์ฟันด์กองที่ 3 ของทิสโก้ที่สามารถเข้าเป้าได้ในปีนี้
กองทุนดังกล่าวนับเป็นกองทุนล่าสุดในซีรีส์ “เจแปน ทริกเกอร์ฟันด์" ซึ่งออกมาแล้ว 9 กองทุน โดย ณ วันที่ 25 เมษายน 2559 บลจ. ทิสโก้ออก กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ มาแล้วทั้งหมด 112 กองทุน จำนวนกองทุนที่ถึงเป้าหมาย 70 กองทุน โดยสามารถบริหารกองทุนให้ถึงเป้าหมายใน target time 59 กองทุน ถึงเป้าหมายนอก target time 11 กองทุน และมีกองทุนที่ไม่ถึงเป้าหมาย 34 กองทุน โดยอยู่ในระหว่างลงทุนนอกเวลา (เกิน target time) 18 กองทุน และปิดกองทุนไปแล้ว 16 กองทุน และเป็นกองที่ยังไม่ถึงเป้าหมายและเกิน target time 8 กองทุน
"ต้องยอมรับว่าสภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกในปีนี้มีความผันผวนสูง การจับจังหวะการเข้าลงทุนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ตลาดมีความกังวลและขาดความมั่นใจทำให้เกิดสภาวะ Oversold โดยมี นักวิเคราะห์หลายสำนักที่แนะนำให้หลีกเลี่ยง ลดน้ำหนัก หรือตัดขาดทุน แต่ทิสโก้ยังคงเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่ยังคงดีอยู่ ไม่ได้อยู่ในสภาวะวิกฤติอย่างที่ตลาดกังวล ในขณะที่สภาพคล่องยังคงอยู่ในระดับสูง ทิสโก้จึงมองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน และออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ในช่วงนั้นหลายกอง ทำให้ประสบความสำเร็จ ล่าสุด กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #9 ได้ถึงเป้าหมายก่อนกำหนดภายในเวลาเพียง 1 เดือน 28 วันเท่านั้น ถือเป็นทริกเกอร์ฟันด์กองที่ 3 ที่ถึงเป้าหมายในปีนี้ นับเป็นผลงานที่สะท้อนความเชี่ยวชาญในการจับจังหวะการลงทุนอย่างแม่นยำของผู้จัดการกองทุน ทั้งนี้ บลจ. ทิสโก้ เรายังมองว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังคงมี Upside เหลือ จากแนวโน้มการเพิ่มเติมนโยบายผ่อนคลายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เมืองคุมาโมโต้ และค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นที่สุดในรอบ 17 เดือน"นายสาห์รัชกล่าว
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน