GL ตั้งเป้ากำไรโต 10 เท่าภายใน 5 ปีจากรุกขยายธุรกิจในภูมิภาค,เจรจาซื้อกิจการเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 13, 2016 14:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธาณคณะกรรมการบริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ากำไรสุทธิจะเติบโตเป็น 10 เท่าภายในระยะเวลา 5 ปี โดยหลังจากนี้กำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในกัมพูชา สปป.ลาว และไทยยังมีการเติบโตอย่างมาก

พร้อมกันนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างรอใบอนุญาตในประเทศอินโดนีเซีย โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 2/59 นี้ นอกจากนี้บริษัทยังศึกษาการชขยายธุรกิจในพม่าและเวียดนามเพิ่มเติมด้วย

"ในระยะเวลา 3-5 ปีต่อจากนี้ เรายังไม่เห็นว่ากำไรของบริษัทฯจะลดลงได้อย่างไร ซึ่งเราเองก็พยายามหาเหตุผลทางลบ แต่จากที่ดูแล้วยังไม่มีอะไรที่จะทำให้สินพอร์ตสินเชื่อของเราไม่เติบโต โดยบริษัทฯมุ่งเน้นการเป็น Digital Finance Company ส่งผลให้บริษัทฯจะเกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง"นายทัตซึยะ กล่าว

นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการอยู่ 3 ดีล ซึ่งมองทั้งที่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการเงิน และที่ไม่ใช่ธุรกิจการเงิน อาทิ ผู้จำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น เพื่อเป็นการต่อยอดขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้อย่างน้อย 1 ดีล ในส่วนของขนาดเงินลงทุนขึ้นอยู่กับขนาดของกิจการต้องการจะเข้าไปลงทุน ไม่ได้กำหนดกรอบการลงทุน และอยากศึกษาให้ดีก่อนจะเข้าลงทุน

สำหรับเป้าหมายในปีนี้ บริษัทคาดว่าพอร์ตสินเชื่อจะเติบโตราว 40% จาก ณ สิ้นปี 58 บริษัทมีพอร์ตสินเชื่อคงค้างราว 9,147 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อในกัมพูชา 25% ไทย 48% และอีก 30% ในสิงคโปร์

ขณะที่บริษัทจะพยายามลดสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) โดยตั้งเป้าจะปรับลด NPL ของพอร์ตสินเชื่อในไทยลงมาอยู่ที่ระดับ 5% ภายในระยะเวลา 2-3 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.5% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องจากช่วงก่อนหน้าอยู่ระดับสูงถึง 10% เนื่องจากบริษัทได้มีการคัดเลือกลูกนี้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ส่วนผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดเดือนมีนาคมปีนี้ สะท้อนถึงพัฒนาการของธุรกิจในทุกกลุ่มซึ่งรวมถึงธุรกิจหลักของบริษัทแม่ในประเทศไทยและธุรกิจในเครือในภูมิภาคอาเซียนทั้งหมด โดยปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ยอดกำไรพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ประกอบด้วย ยอดปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจในกัมพูชาและ สปป.ลาว รวมถึงคุณภาพสินทรัพย์โดยรวมที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้การตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญลดต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในประเทศไทยมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ในขณะที่รายได้อื่นๆ ซึ่งประกอบด้วย การปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้ากลุ่มใหม่ในกัมพูชา ซึ่งเป็นบริษัท SMEs ที่จำหน่ายสินค้าต่างๆ ให้กับลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อของ GL อาทิ รถจักรยานยนต์ เครื่องจักรกลการเกษตร แผงโซล่าร์เซลล์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยบันทึกเป็นผลกำไรของบริษัท GL Holdings (GLH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ประเทศสิงคโปร์ ส่วนธุรกิจใหม่ใน สปป.ลาว ก็เริ่มมีกำไรในไตรมาสนี้

บริษัทชี้แจงว่ารายได้จากดอกผลเช่าซื้อในงบการเงินรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 1.47 ล้านบาท เป็น 484.70 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากรายได้ของบริษัทย่อยในกัมพูชาและ สปป.ลาว จำนวน 80.77 ล้านบาท และ 16.04 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม รายได้จากดอกผลเช่าซื้อของบริษัทแม่ในประเทศไทยและธนบรรณลดลงจำนวน 50.33 ล้านบาท และ 45.01 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ในการมุ่งเน้นขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียที่มีศักยภาพการเติบโตสูงกว่าและมีอัตราสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในระดับต่ำ

บริษัทยังชี้แจงเพิ่มเติมว่ารายได้อื่นๆ ในงบการเงินรวมเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 89.70 ล้านบาทในไตรมาส 1 ของปีที่แล้ว เป็น 173.49 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปีนี้ โดยเพิ่มขึ้น 83.80 ล้านบาท หรือคิดเป็น 93.42% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นรายได้ดอกผลจากการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้ากลุ่มใหม่ในประเทศกัมพูชา ที่เป็นผู้ประกอบการ SMEs จำหน่ายสินค้าต่างๆ ให้กับลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อของ GL

นอกจากนั้น กำไรสุทธิที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากยังสะท้อนถึงการตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญที่ปรับลดต่ำลง ซึ่งสอดคล้องกับคุณภาพของสินทรัพย์ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ปรับดีขึ้นตามภาวการณ์ฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในขณะที่ผลขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์รอการขายได้ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 107.10 ล้านบาท เป็น 57.25 ล้านบาท โดยลดลง 49.85 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46.54% ซึ่งเป็นผลจากการที่ราคาตลาดรถมอเตอร์ไซค์มือสองปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและปริมาณสินทรัพย์รอการขายเพิ่มขึ้นจากการขยายสินเชื่อ นอกจากนี้ บริษัทย่อยในต่างประเทศมีอัตราการค้างชำระที่ต่ำมากจากคุณภาพหนี้ที่ดีมส่งผลให้ไม่มีผลขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์รอการขาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ