TTA เผยผลงาน Q1/59 ดีขึ้น เน้นคุมค่าใช้จ่าย-บริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ รับมือธุรกิจเดินเรือ-อุตฯน้ำมันยังผันผวน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 16, 2016 14:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานรวมของบริษัทฯ ในไตรมาสแรกของปี 2559 เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติสุทธิที่เป็นส่วนของ TTA อยู่ที่ 224.5 ล้านบาท ซึ่งผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลงในไตรมาสนี้นับเป็นเรื่องปกติเนื่องจากช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมของทุกปี เป็นวัฏจักรโดยธรรมชาติของธุรกิจ

แต่ด้วยงบการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นรวมทั้งสิ้น 1.34 หมื่นล้านบาท ณ 31 มีนาคม 2559 มั่นใจว่า TTA จะสามารถผ่านช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ไปได้

แม้ว่าไตรมาสแรกของทุกปีเป็นช่วงโลว์ซีซันของธุรกิจประกอบกับธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือต้องเผชิญกับภาวะชะลอตัวมากที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีและราคาน้ำมันดิบยังลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 13 ปีในไตรมาสที่ 1/2559 ก็ตาม แต่ธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกองของโทรีเซน ชิปปิ้ง ยังคงทำอัตราเฉลี่ยของค่าระวางเรือได้สูงกว่าตลาด ในขณะที่ธุรกิจให้บริการวิศวกรรมใต้น้ำทะเลของกลุ่มเมอร์เมดก็ได้ทำสัญญาใหม่กับลูกค้า

นอกจากนี้ TTA ยังคงดำเนินมาตรการควบคุมค่าใช้จ่าย ซึ่งส่งผลดีทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและบริหาร (SG&A) ลดลงไปได้ถึง 44% อย่างไรก็ดีคาดว่าธุรกิจขนส่งทางเรือและอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอาจจะมีความผันผวนต่อไปอีกตลอดปี 2559 ดังนั้น บริษัทฯจะคงใช้แนวทางการควบคุมค่าใช้จ่าย การบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ นโยบายการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ อย่างรอบคอบ รวมถึงการรักษาสถานะทางการเงินให้แข็งแกร่ง ซึ่งมั่นใจว่า TTA สามารถที่จะผ่านพ้นช่วงเวลาที่ท้าท้ายที่เช่นนี้ไปได้

กลุ่มโทรีเซน ชิปปิ้ง อัตราค่าระวางเรือของโทรีเซน ชิปปิ้ง ยังคงสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของตลาด Supramax (BSI) ที่ปรับฐานแล้วร้อยละ 12 โดยมีอัตราการใช้ประโยชน์อยู่ที่ระดับสูงแม้ภายใต้ภาวะตลาดที่ชะลอตัว และดัชนี BDI ลดลงไปที่จุดต่ำสุดในรอบ 30 ปี ส่วนธุรกิจการเช่าเรือยังคงดำเนินการไปได้ดีและสร้างอัตราผลกำไรเป็นบวกให้กับกลุ่มบริษัท

ในไตรมาสที่ 1/2559 อัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยของโทรีเซน ชิปปิ้ง อยู่ที่ 3,747 เหรียญสหรัฐต่อวัน ซึ่งสูงกว่าอัตราค่าระวางเรือเฉลี่ยของตลาด Supramax ที่ปรับฐานแล้วที่ 3,358 เหรียญสหรัฐต่อวันถึงร้อยละ 12 แม้ว่าจะลดลงร้อยละ 54 จาก 8,091 เหรียญสหรัฐต่อวันในไตรมาสที่ 1/2558 เนื่องจากดัชนีบอลติคได้ปรับตัวลงมาที่จุดต่ำสุดในไตรมาสนี้

นอกจากนี้ โทรีเซน ชิปปิ้ง ได้ขายเรือ M.V. Thor Dynamic ขนาด 43,497 DWT ทำให้ปัจจุบัน โทรีเซน ชิปปิ้งมีเรือที่เป็นเจ้าของอยู่ 23 ลำ ซึ่งมีขนาดเฉลี่ยเท่ากับ 50,946 DWT และมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 11.75 ปี ซึ่งโดยรวมแล้ว โทรีเซน ชิปปิ้งดำเนินการกองเรือเฉลี่ย 30 ลำ (เรือของบริษัท 22.2 ลำและเรือเช่า 7.9 ลำ) ในไตรมาสที่ 1/2559

โดยสรุปกลุ่มโทรีเซน ชิปปิ้ง รายงานผลขาดทุนสุทธิ 263.9 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1/2559 โดยเป็นผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติ ที่ 259.3 ล้านบาท

เมอร์เมด มาริไทม์ ในไตรมาสที่ 1/2559 กลุ่มเมอร์เมด มีรายได้รวมเท่ากับ 1,412.9 ล้านบาทลดลงร้อยละ 29 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 1,984.2 โดยรายได้จากเรือวิศกรรมใต้ทะเลและงานบริการสนับสนุนด้านอื่นๆ (ที่ไม่ใช้เรือ) ในไตรมาสที่ 1/2559 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 และร้อยละ 18 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราการใช้ประโยชน์ของเรือวิศวกรรมใต้ทะเลเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 33 ในไตรมาสที่ 1/2558 เป็นร้อยละ 40 ในไตรมาสที่ 1/2559 ในขณะเดียวกัน กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 109 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้นร้อยละ 101 จากไตรมาสที่แล้ว แม้ว่ารายได้จากธุรกิจวางสายเคเบิ้ลใต้ทะเล จะลดลงในไตรมาสนี้

แม้ว่าไตรมาสแรกบริษัทฯ จะต้องเผชิญกับวัฎจักรธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ชะลอตัว แต่กลุ่มเมอร์เมด ก็ยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัทปิโตรเลี่ยมและก๊าซธรรมชาติในอุตสาหกรรมต้นน้ำที่ตกลงทำสัญญาใช้บริการสำรวจใต้ทะเลน้ำลึกในอ่าวไทยเป็นเวลา 2 ปี เริ่มตั้งปีเดือนมีนาคม 2559 จนถึง เดือนมีนาคม 2561 ซึ่งมูลค่าของสัญญาในระยะเริ่มต้นคิดเป็นเงินประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับธุรกิจเรือขุดเจาะ Jack-up drilling rigs สเปคสูงสามลำของ MML Group ภายใต้ Asia offshore Drilling (AOD) มีค่าเฉลี่ยการใช้ประโยชน์ที่ร้อยละ 100 ในไตรมาสแรก อย่างไรก็ตาม เรือขุดเจาะแบบ tender rigs ยังคงจอดอยู่เพื่อรอการขายออกไป โดยสรุป ในไตรมาสที่ 1/2559 กลุ่มเมอร์เมด รายงานผลกำไรสุทธิที่ 44.2 ล้านบาทและมีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA ที่ 26.3 ล้านบาท

บมจ. พีเอ็ม โทรีเซนเอเชีย โฮลดิ้งส์ (PMTA) มีปริมาณการส่งออกผลิตภัณฑ์ปุ๋ย เพิ่มขึ้นร้อยละ 95 จากไตรมาสที่ 1/2558 เนื่องจากกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มุ่งเน้นขยายการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนหน้าหรือเพิ่มขึ้น 2,885 ตัน ในขณะที่ พื้นที่โรงงานให้เช่า Baconco5-B เฟส 2 (8,200 ตร.ม.) มีลูกค้าเช่าเต็มพื้นที่แล้วและอุปสงค์จากทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในไตรมาที่ 1/2559 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 26.4 ล้านบาท และกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA 17.8 ล้านบาท โดยมียอดขายและรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นการส่งออก ส่วนรายได้ที่มาจากธุรกิจให้เช่าพื้นที่โรงงาน ทำได้ 10.6 ล้านบาท

ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 95 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจาก 7,760 ตัน เพิ่มขึ้นเป็น 15,100 ตันในไตรมาสที่ 1/2559 เนื่องจากกลยุทธ์การขยายการส่งออกไปยังภูมิภาคอื่นๆที่มีฤดูกาลเพาะปลูกที่ต่างไปจากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บมจ.ยูนิค ไมนิ่งเซอร์วิสเซส(UMS) ปริมาณการขายถ่านหินของบริษัทฯ ของเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากไตรมาสที่แล้ว และการให้บริการใหม่ๆ ช่วยเพิ่มรายได้ให้อีกทางหนึ่ง

ในไตรมาสที่ 1/2559 บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 16 ล้านบาท โดยมีปริมาณการขายถ่านหินของ UMS ลดลงร้อยละ 33 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 86,000 ตันมาอยู่ที่ 58,000 ตันในไตรมาสที่ 1/2559 แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จาก ไตรมาสที่แล้วที่ 43,000 ตัน การลดลงของปริมาณการขายถ่านหินจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากปริมาณ การขายถ่านหินคัดขนาดในระหว่างไตรมาสที่ 1/2559 ลดลง เนื่องจากโอกาสในการนำเข้าถ่านหินเพื่อมาขายมีจำกัด แต่ปริมาณการขายถ่านหินเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากไตรมาสก่อนหน้า

รายได้อื่นแสดงสัญญาณที่ดีขึ้นโดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 197 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้นร้อยละ 118 จากไตรมาสที่แล้ว หลังจากที่ UMS เริ่มดำเนินการตามแผนฟื้นฟูธุรกิจ ในขณะที่แผนการลดต้นทุนที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงร้อยละ 32 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและลดลงร้อยละ 6 จากไตรมาสที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ