หุ้น BM เปิดเทรดวันแรกที่ 5.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.12 บาท (+73.61%) จากราคาขาย IPO ที่ 2.88 บาท/หุ้น
บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของบมจ.บางกอกชีทเม็ททัล (BM) ประเมินราคาพื้นฐานของ BM ไว้ที่ 3.42 บาท จากคาดการณ์กำไรปีนี้โต 26% Y-Y ตามการเติบโตของทุกกลุ่มสินค้า และอิง PE 16 เท่าเท่ากับกลุ่ม IMM
BM เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าแปรรูปเหล็ก เช่น รางเดินสายไฟฟ้าและท่อร้อยสายไฟฟ้า ซึ่งทำรายได้หลัก 48% ของรายได้รวม อีก 26% เป็นชิ้นส่วนโลหะ เช่นตู้สื่อสาร ตู้ไฟฟ้า และตู้โลหะ สินค้าของบริษัทโตตามอุตสาหกรรมก่อสร้างจากการเร่งตัวของโครงการภาครัฐ การลงทุน 4G และอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร ส่วนกำไรปี 2017 คาดโตต่อเนื่อง 17% Y-Y
นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BM กล่าวว่า หุ้น BM ที่เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันนี้เปิดตลาดที่ 5 บาท เพิ่มขึ้น 73.61% จากราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ 2.88 บาท/หุ้น โดยเสนอขายทั้งหมด 100 ล้านหุ้น ระดมทุนจาก IPO ได้ 288 ล้านบาท
"บริษัทมีความพอใจอย่างมากกับราคาเปิดการซื้อขายในวันนี้ โดย BM ให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน ตอบสนองความต้องการของลูกค้าหลากหลายรูปแบบ ซึ่งทำให้เกิดความไว้วางใจกับนักลงทุน"นายธานิน กล่าวจากนี้ไปบริษัทจะเดินแผนการก่อสร้างอาคารโรงงานแห่งใหม่หลังที่ 2 เพื่อขยายกำลังการผลิตเหล็กแปรรูป และขยายไลน์การผลิตเพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการก่อสร้างอาคารโรงงานแห่งใหม่จะเริ่มก่อสร้างในปลายไตรมาส 3/59 ถึงต้นไตรมาส 4/59 ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 6 เดือน หลังได้เงินจากการระดมทุนขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) หวังผลักดันรายได้ให้เติบโต
นอกจากนี้ยังใช้เงินจาก IPO ในการปรับปรุงเครื่องจักร เพื่อลดต้นทุนการผลิต เพิ่มสินค้าใหม่ๆ ,ลงทุนด้านโลจิสติกส์ เพื่อลดต้นทุนขนส่งสินค้า และบริหารศูนย์ฝึกอบรม เพื่อยกระดับความรู้แก่พนักงาน อีกทั้งจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ รวมถึงชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินด้วย
นายธานิน กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตประมาณ 20% จาก 800 ล้านบาทในปีก่อน โดยมีสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการ ที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 50% และส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มลูกค้าผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่จะมาจากสินค้ารางและท่อร้อยสายไฟฟ้า ตู้สื่อสาร และชิ้นส่วนยานยนต์ทางการเกษตร
สินค้ารางและท่อร้อยสายไฟฟ้าในปีนี้จะเติบโตตามการลงทุนของภาครัฐ เช่น โครงการรถไฟฟ้า ซึ่งบริษัทได้รับคำสั่งซื้อดังกล่าว มูลค่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะส่งมอบได้ทั้งหมดในปีนี้ ขณะที่สินค้าตู้สื่อสาร ก็ได้รับอานิสงส์จากการที่ผู้ประกอบการให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือจะเปลี่ยนถ่ายสัญญาณ 3G เป็น 4G จึงทำให้ต้องมีการเปลี่ยนระบบและขยายตู้สื่อสารมากขึ้น ทำให้ได้รับคำสั่งซื้อเข้ามามากกว่าปกติเพิ่มอีก 60-70 ล้านบาท จากปกติมีอยู่แล้วเฉลี่ยปีละ 100 ล้านบาท
ขณะเดียวกันสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ทางการเกษตร บริษัทได้ผลิตชิ้นส่วนให้กับคูโบต้า ซึ่งคูโบต้าได้ประกาศแล้วว่าในปี 63 จะเป็นผู้นำเครื่องจักรทางการเกษตรของโลก จึงทำให้คูโบต้าสั่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทมากขึ้น โดยได้รับคำสั่งซื้อเฉลี่ยปีละ 200 ล้านบาท
"สำหรับแนวโน้มของ BM ต่อไปในอนาคต บริษัทมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิต และขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาลและการลงทุนของภาคเอกชน และความต้องการเครื่องจักรกลการเกษตรในกลุ่ม AEC ที่เพิ่มสูงขึ้น"นายธานิน กล่าวด้านนายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM)ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ BM กล่าวว่า ราคาหุ้น BM ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคา IPO เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท ประกอบกับแนวโน้มในการเติบโตของบริษัทในอนาคตที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากการพัฒนาทั้งในส่วนของการขยายกำลังการผลิต และพัฒนาผลิตภัณฑ์เหล็กแปรรูปให้มีคุณภาพ และความหลากหลายเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีโอกาสเติบโตจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางของรัฐ และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการการใช้เหล็กแปรรูปให้เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มอาเซียน เช่น เวียดนาม ลาว กัมพูชา และเมียนมา