(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนลงเช่นเดียวกับตลาดภูมิภาค เหตุกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย-ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 19, 2016 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะอ่อนตัวลง ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ เนื่องจากมีปัจจัยลบจากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังรายงานผลการประชุมของเฟดในเดือนก่อนหน้านี้ ได้มีท่าทีแสดงให้เห็นถึงโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า (มิ.ย.)

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ได้อ่อนตัวลงด้วย ทำให้อาจจะไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน ด้วยสองปัจจัยนี้ที่มากดดันตลาดฯในวันนี้ พร้อมให้แนวรับ 1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,410 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (18 พ.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,526.62 จุด ลดลง 3.36 จุด (-0.02%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,739.12 จุด เพิ่มขึ้น 23.39 จุด (+0.50%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,047.63 จุด เพิ่มขึ้น 0.42 จุด (+0.02%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 162.77 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.20 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 96.78 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 0.25 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.82 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.89 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 14.64 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 พ.ค.59) 1,400.50 จุด ลดลง 6.07 จุด (-0.43%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 913.48 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 พ.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (18 พ.ค.59) ปิดที่ 48.19 ดอลลาร์/
บาร์เรล ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 พ.ค.59) ที่ 4.77 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.68/70 ทิศทางยังอ่อนค่าตามภูมิภาค หลังดอลล์แข็งรับเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย
  • เอไอเอส เข้ายื่นเอกสารร่วมประมูลคลื่น 900 MHz พร้อมวางหลักประกัน 3.7 พันล้านบาท กับ กสทช.แล้ว"ฐากร"เผยเตรียมเปิดให้เคาะราคา 27 พ.ค.นี้ ถ้ามีรายเดียว เคาะ ครั้งแรกก็ชนะประมูลไปเลย ส่วนเงินจัดประมูล เตรียมนำไปรวมแล้วส่งบิลเรียกเก็บจากแจสทีเดียว
  • นายอำนวย ปรีมนวงศ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คลังจะยึดตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในการแบ่งแยกทรัพย์สินจากบริษัท ปตท. โดยเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2551 ศาลได้มีคำรับรองผลการแบ่งแยกทรัพย์สินของคณะกรรมการแบ่งแยกทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ และ ปตท. ตามคำพิพากษาครบถ้วนแล้ว และได้ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 18 ธ.ค. 2550 ที่ต้องรายงานให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบรับรองความถูกต้องในการโอนทรัพย์สินคืนรวม 9 ครั้ง
  • นายพรายพล คุ้มทรัพย์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ เปิดเผยว่า มีโอกาสยากที่ไตรมาสที่เหลือของปีนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะมีอัตราการเติบโตสูง 3.2% เหมือนไตรมาสแรก โดยจีดีพีไตรมาสแรกที่ดีเกินคาด ส่วนหนึ่งมาจากการนำเข้าที่ลดลง เพราะฐานราคาน้ำมันที่ต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ 30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวม แต่จากนี้ไปฐานราคาน้ำมันต่ำจะหมดไป โดยคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 40-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่ไม่สูงขึ้นมากถึงขั้นมีผลต่อ กรอบเงินเฟ้อ ทำให้ดอกเบี้ยนี้ยังจะต่ำ ต่อเนื่องที่ 1.5%
  • นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-มี.ค.) ธุรกิจประกันชีวิตทำเบี้ยรับรวมได้ 141,493 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.8% แยกเป็นเบี้ยรับรายใหม่ 40,734 ล้านบาท เติบโต 2.98% และเบี้ยรับปีต่อไป 100,759 ล้านบาท เติบโต 6.98% โดยมีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ที่ 82%
  • กระทรวงคลังประเมินว่าเศรษฐกิจในปีนี้มีโอกาสเติบโตได้มากกว่าเป้าหมายทั้งปีที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินไว้ที่ 3.3% เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไปเป็นช่วงขาขึ้น คาดจีดีพีจะเติบโตได้มากกว่า 3.2% และปรับขึ้นสูงสุดในช่วงไตรมาส 3 หรือเติบโตได้มากกว่า 4% ก่อนที่จะปรับลดลงเล็กน้อยในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกปี

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BCP (เคทีบี)"ซื้อ"เป้า 35 บาท มีแนวโน้มกำไรฟื้นตัวโดดเด่นมากกว่ากลุ่ม จากการกลับมาดำเนินการผลิตอย่างปกติหลังปิดซ่อมบำรุงใน 1Q16 นอกจากจะช่วยเพิ่มปริมาณผลิตภัณฑ์แล้วยังส่งผลให้ค่าการกลั่นทรงตัวได้ (เทียบกับอุตสาหกรรมที่ค่าการกลั่นอ่อนตัวลงกว่า 44%) ส่งผลแนวโน้มธุรกิจโรงกลั่นจะมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างโดดเด่น ขณะที่ปัจจุบัน BCP มีแผนในการขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าแม้ค่าการกลั่นจะอ่อนตัวลง แต่บริษัทจะมี stock gain มาชดเชย ราคาหุ้นก็ laggard กลุ่มมาก
  • KTC (ไอร่า) เป้า 110 บาท ผลการดำเนินงาน Q1/59 มีกำไรสุทธิ 635 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%yoy หรือคิดเป็น 2.46 บาท/หุ้น โดยมีรายได้รวม 4,152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% แบ่งเป็น รายได้ดอกเบี้ยบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล เติบโต 8% และ 16% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีหนี้สูญรับคืน เพิ่มขึ้น 21% และรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น 13% โดย KTC สามารถควบคุมต้นทุนทางการเงินได้ดี โดย,uค่าใช้จ่ายรวม เพิ่มขึ้น 13% หลักๆ จากค่าการตลาด
  • GFPT (โกลเบล็ก) เป้า Consensus เฉลี่ย 13.15 บาท คาดกำไรปี 59 ที่ 1.3-1.4 พันลบ. (+18%YoY) จากการฟื้นตัวของราคาไก่และการส่งออกที่ดีขึ้น รวมถึงได้ประโยชน์ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ลดลง แนวโน้มกำไร Q2-3/59 เติบโตรับไฮ-ซีซั่นของการส่งออกและได้ประโยชน์เงินบาทอ่อนค่า พร้อมเตรียมลงทุนกว่า 1.5 พันล้านบาทขยายโรงงานของบริษัทร่วม McKey อีกเท่าตัวเป็น 25,000 ตันต่อปี เพื่อรองรับ order จากญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ใน Q4/60

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ