หุ้นในกลุ่มผู้ผลิตและส่งออกไก่ราคาขยับขึ้นตอบรับปัจจัยบวกจากภาวะการเลี้ยงในช่วงอากาศร้อนจัด-แล้งที่ส่งผลดีต่อราคาขาย
เมื่อเวลา 10.34 น.หุ้น CPF บวก 2.61% มาอยู่ที่ 29.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 515.07 ล้านบาท
ส่วนหุ้น GFPT บวก 0.81% มาอยู่ที่ 12.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 26.57 ล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ประธานสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ เปิดเผยว่า สภาพอากาศร้อนจัดและขาดน้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการให้ไข่ของแม่ไก่และไก่เนื้อโตช้าลง เนื่องจากไก่กินอาหารน้อย นอกจากนั้น หลายพื้นที่เกิดพายุลมแรง ทำให้ฟาร์มเกษตรกรรายย่อยในภาคใต้และภาคเหนือเสียหายด้วย ทางสมาคมฯให้ข้อมูลว่าปริมาณผลผลิตไก่ลดลงกว่า 10% และผลผลิตไข่ลดลง 15-20%
พร้อมมีความเห็นว่า ปริมาณผลผลิตไก่และไข่ที่ลดลงทำให้ปัญหา Oversupply ในประเทศผ่อนคลายลง และทำให้ราคาไก่สามารถยืนได้ที่ 37-38 บาท/กก. และมีแนวโน้มขยับขึ้นไปใกล้ 40 บาท/กก.ได้ นอกจากนั้นยังทำให้ราคาลูกไก่เพิ่มขึ้นเป็น 12.5 บาท/ตัวในเดือนพ.ค.59 จากประมาณ 11 บาท/ตัวในเดือนมี.ค.59 คาดว่าบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับผลดี คือ
บมจ.จีเอฟพีที (GFPT) (ราคาพื้นฐาน 13 บาท อิง P/E ปี 59 ที่ 13 เท่า) บริษัทเป็นผู้ผลิตและส่งออกไก่ครบวงจร โดยมีสัดส่วนการส่งออกโดยตรง 20% และส่งออกโดยอ้อมผ่านบริษัทร่วมอีก 10% ส่วนที่ขายในประเทศเป็นลูกไก่และ By Product ของไก่ และไก่สด (ขายให้บริษัทร่วม คือ GFN) ซึ่งราคาไก่ที่ปรับขึ้นทำให้ราคา By Product ดีตามไปด้วย สำหรับ Key growth ของปีนี้ คือ 1. ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น 2. ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ไม่สูง และ 3. ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม คือ McKey และ GFN เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) (ราคาพื้นฐาน 34 บาท อิง P/E ปี 59 ที่ 29 เท่า) บริษัทผลิตและส่งออกอาหารครบวงจร โดยในปีนี้มีการฟื้นตัวของกำไรหลักอย่างแข็งแกร่ง เป็นผลจากราคาเนื้อหมูและไก่เพิ่มขึ้น ธุรกิจกุ้งฟื้นตัว และควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยังผลให้ไตรมาส 1/59 ทำกำไรหลักได้ 2.1 พันล้านบาท จากที่ขาดทุน 57 ล้านบาทในไตรมาส 4/58 แนวโน้มที่เหลือของปีนี้ยังไปได้ดี โดยราคาไก่มีโอกาสขยับขึ้นเพราะ Supply เข้าสู่ตลาดน้อยลง ขณะที่ราคาหมูยังอยู่ในระดับสูงได้ และธุรกิจกุ้งดีขึ้นเป็นลำดับ