บมจ.ไทยออพติคอล กรุ๊ป (TOG) จับมือบริษัท มิตซุย เคมิคอล ของญี่ปุ่น พัฒนาเลนส์ชีวภาพ "LeafEco" ซึ่งเป็นเลนส์สายตาที่ใช้วัตถุดิบจากปาล์มน้ำมัน ซึ่งสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) ในกระบวนการผลิตได้ถึง 326 กิโลกรัม ต่อการผลิตเรซิน 100 กิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับกับกระบวนการผลิตเลนส์พลาสติกที่ใช้ปิโตรเคมีเป็นวัตถุดิบ และเตรียมนำออกสู่ตลาดเชิงพาณิย์ในปลายปี 59
นายธรณ์ ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการ TOG เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายเลนส์ชีวภาพในปีแรก(ปี 60) ที่ 50-60 ล้านบาท และปี 63 เพิ่มเป็น 300 ล้านบาท โดยจะนำออกวางตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 4/59 ขณะนี้ได้รับความสนใจจากลูกค้าสหรัฐและยุโรปจำนวนมาก โดยตั้งเป้าปี 60 สัดส่วนรายได้จากเลนส์ชีวภาพจะคิดเป็น 10% ของรายได้รวม
"เลนส์ชีวภาพถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในกลุ่มไฮพรีเมี่ยมสูงสุด ซึ่งการเป็นไฮพรีเมี่ยมเมื่อแลกกับวอลุ่มอาจไม่เยอะ โดยปัจจุบันอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 20% ต้น ๆ เลนส์ชีวภาพก็จะสูงกว่า แต่สูงกว่าเท่าไรยังบอกไม่ได้ เพราะราคาขายกับต้นทุนถูกmatch อยู่กับกลุ่มลูกค้าสหรัฐฯและยุโรป"นายธรณ์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 10-12% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.89 พันล้านบาท โดยไตรมาส 1/59 รายได้เติบโตแล้วกว่า 12% และแนวโน้มไตรมาส 2/59 คาดว่าจะสามารถรักษา momentum ไว้ได้ ซึ่งจะทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปีจะทำได้ตามเป้าหมาย และบริษัทยังจะรอประเมินผลประกอบการไตรมาส 2/59 ก่อนจะพิจารณาว่าจะมีการปรับเป้าหมายรายได้เพิ่มขึ้นหรือไม่
"ปีนี้ที่จะโต 10-12% โตจากปัจจัยการเข้าไปขยายตลาดประเทศคู่ค้าต่างประเทศ หลักๆ คืออเมริกา ยุโรป ซึ่งการเพิ่มคู่ค้าก็กำลังเกิดขึ้น (On-going) อยู่ ส่วนการจะปรับเป้ารายได้หรือไม่ปัจจุบันยังไม่รีวิว ขอรอผลประกอบการไตรมาส 2 ออกก่อน ค่อยปรึกษากัน"นายธรณ์ กล่าว
ส่วนกำไรสุทธิปีนี้ก็เชื่อว่าจะสูงกว่าปีก่อนที่มีกำไร 229 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 1/59 มีกำไรแล้ว 75 ล้านบาท ดังนั้น ทั้งปีก็น่าจะเป็นทิศทางเดียวกับรายได้ โดยบริษัทตั้งเป้ารักษาอัตรากำไรสุทธิที่ 10-12% ใกล้เคียงกับปีก่อนที่อยู่ในระดับ 12% โดยไตรมาส 1/59 ก็ทำได้ที่ 12% แต่ที่ตั้งเป้าเป็นกรอบไว้ เพราะต้องระมัดระวังเรื่องการแข่งขันในตลาดโลกด้วย
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทมาจากการส่งออก 95% ขายในประเทศ 5% ขณะที่คาดว่าตลาดเลนส์สายตาของโลกปีนี้คาดว่าจะเติบโต 7% และในครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 1-2 ตัวเป็นการปรับแต่งเลนส์
นายธรณ์ กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ 300 ล้านบาท สูงกว่าปีที่ผ่านๆ มาที่อยู่ในระดับ 80-100 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีแผนขยายสายการผลิตเลนส์เฉพาะบุคคล เพื่อเพิ่มกำลังผลิตขึ้นเป็น 30 ล้านชิ้น/ปีในปี 60 จากปัจจุบันที่ 24 ล้านชิ้น/ปี สำหรับการผลิตเลนส์ชีวภาพนั้นไม่ต้องลงทุนเพิ่มเพราะพื้นที่กำลังการผลิตที่ขยายไปแล้วยังสามารถรองรับได้
ด้านแผนการขยายตลาดในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) นั้น ปัจจุบันบริษัทมีพันธมิตรอยู่ 3 ประเทศ คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างการเจรจาพันธมิตรเพิ่มเติมในอินโดนีเซียและเมียนมาร์ แต่ปีนี้เนื่องจากกิจกรรมของบริษัทจะโฟกัส 2 ประเด็นคือขยายกำลังการผลิตเลนส์เฉพาะบุคคล และผลิตเลนส์ชีวภาพเพื่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การเจรจากับพันธมิตรใหม่ก็น่าจะไปสรุปในปี 60 เบิ้องต้นคงเป็นการพัฒนาธุรกิจสายการผลิตเลนส์เฉพาะบุคคลร่วมกันและเป็นศูนย์จำหน่าย โดย TOG มีแผนจะถือหุ้น 1 ใน 3 เช่นเดิม
ทั้งนี้ การขยายตลาด AEC เพิ่มขึ้นก็เพื่อสร้างความสมดุลในพอร์ตลูกค้า โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จาก AEC เพิ่มเป็น 30% ในปี 60 จากปัจจุบันอยู่ที่ 10% ซึ่งก็จะทำให้ปี 60 รายได้มาจากสหรัฐฯ ราว 30% ยุโรป ราว 30% และ AEC ราว 30% ซึ่งเป็นสัดส่วนใกล้เคียงกัน
ด้านนายซาโตชิ อิชิมูระ ซึ่งเป็นตัวแทนของ บริษัทมิตซุย เคมิคอล ผู้วิจัยและพัฒนาวัตถุดิบชีวภาพภายใต้โครงการ DoGreenTM กล่าวถึงความร่วมมือในการพัฒนาเลนส์ชีวภาพว่า TOG เป็นผู้ผลิตเลนส์รายใหญ่ของโลกที่มีความสนใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งมิตซุย เคมิคอล มีความเชี่ยวชาญและถือเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในการผลิตเลนส์ชีวภาพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากประเทศญี่ปุ่น จึงได้ร่วมกันพัฒนาวัตถุดิบชีวภาพสำหรับการผลิตเลนส์สายตาคุณภาพสูง “1.74 LeafEco” ขึ้น
วัตถุดิบส่วนใหญ่จะเป็น"ปาล์มน้ำมัน"ซึ่งปลูกในประเทศไทยเป็นผลิตผลที่มีคุณภาพดี ได้มาตรฐาน และเหมาะที่จะนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตเลนส์มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับเลนส์พลาสติกคุณภาพสูง และยังสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ในกระบวนการผลิตด้วย