บลจ.กสิกรไทยย้ายกองทุน ABFTH เข้าเทรดใน SET ก.ค.,จ่ายปันผล 15 บาท/หน่วย

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 9, 2016 16:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการที่ปรึกษากองทุนอยู่ในระหว่างการพิจารณาให้ย้ายการซื้อขายกองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) จากตลาดตราสารหนี้ (BEX) เข้าไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อเป็นการส่งเสริมให้กองทุนเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น รวมถึงยังเป็นการช่วยเพิ่มขนาดกองทุนและสภาพคล่องให้มีมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปรวมถึงนักลงทุนสถาบันสามารถเข้าลงทุนได้ง่ายขึ้น โดยคาดว่ากองทุนจะเริ่มจดทะเบียนใน SET ได้ในช่วงเดือน ก.ค.นี้

จุดเด่นของกองทุน ABFTH คือ เป็นกองทุนรวม ETF ดัชนีตราสารหนี้ภาครัฐที่มีความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้ต่ำมาก และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงเนื่องจากกองทุนมีอายุเฉลี่ยของตราสาร (Portfolio Duration) ยาวกว่ากองทุนรวมตราสารหนี้ทั่วไป ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนสถาบันที่ต้องการกระจายการลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะยาว และต้องการบริหาร Portfolio Duration ที่มีระยะเวลาเฉลี่ยประมาณ 6 ปี รวมถึงผู้ลงทุนรายย่อยที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น พร้อมทั้งยังมีสภาพคล่องเนื่องจากสามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุน ABFTH สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.58-31 พ.ค.59 ในอัตรา 15.00 บาทต่อหน่วย มูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 86.33 ล้านบาท โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียนเวลา 8.00 น. ของวันที่ 31 พ.ค.59 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 มิ.ย.59

กองทุน ABFTH เป็นกองทุนรวม ETF กองทุนแรกของไทยที่มีการลงทุนโดยอ้างอิงกับดัชนีตราสารหนี้ภาครัฐ (iBoxx ABF Thailand Index) โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลไทย หรือออกโดยภาครัฐที่มีรัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกัน หรือได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือไม่ต่ำกว่าระดับ Investment Grade จากสถาบันจัดอันดับที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

ปัจจุบันกองทุนมีขนาดประมาณ 7,000 ล้านบาท และจดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดตราสารหนี้ (BEX) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้ดูแลสภาพคล่องในตลาดรอง

“สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนที่ผ่านมา ด้วยจุดเด่นของกองทุน ABFTH ที่มุ่งเน้นลงทุนในพันธบัตรที่มีความมั่นคงสูง และมุ่งสร้างผลตอบแทนให้อยู่ในระดับที่ดีใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง ทำให้กองทุนยังรักษาผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2549 โดยกองทุนมีการจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 21 ครั้ง รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 388.36 บาทต่อหน่วย ส่วนในรอบผลการดำเนินงานที่ผ่านมา (1 ธ.ค. 58 – 31 พ.ค. 59) กองทุนให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.83%" นายชัชชัยกล่าว

ด้านสถานการณ์ตลาดตราสารหนี้ไทย ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีความผันผวนค่อนข้างสูง ปัจจัยหลักมาจากการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) โดยราคาตราสารหนี้ไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นมากตั้งแต่ต้นปี 59 เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่า FED จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไปก่อน ทำให้มีเม็ดเงินลงทุนเข้าซื้อพันธบัตรอย่างต่อเนื่อง แต่ในเดือน พ.ค.ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาแข็งแกร่งส่งผลให้ตลาดคาดว่า FED มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเทขายพันธบัตรและกดดันราคาให้ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ล่าสุด ราคาพันธบัตรปรับตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง หลังสหรัฐฯประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนพ.ค. ซึ่งออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ทำให้โอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยของ FED มีน้อยลงไปอีก

สำหรับมุมมองตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงครึ่งปีหลัง แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่กดดันตลาดตราสารหนี้ให้เกิดความผันผวนในระยะสั้น แต่คาดว่าจะมีความผันผวนไม่มากเหมือนครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดมีการรับรู้ไปมากแล้วถึงจังหวะในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ว่ามีโอกาสปรับขึ้นได้ 2 ครั้งภายในปีนี้ ประกอบกับปริมาณสภาพคล่องในระบบที่ยังมีอยู่สูงจากมาตรการ QE ของธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนในตราสารหนี้

ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังสามารถขยายตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการลงทุนภาครัฐและภาคการท่องเที่ยวที่ยังเติบโตได้ดี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ