(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซึมลงหลังราคาน้ำมันอ่อนลง-กังวลเศรษฐกิจโลก-เงินดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มแข็งค่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 10, 2016 09:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ซึมลง เนื่องจากราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนที่ผ่านมาได้อ่อนตัวลง และคาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรหลังจากที่มีความกังวลเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจจีนอ่อนแอ ด้านเงินดอลลาร์สหรัฐฯก็เริ่มแข็งค่าขึ้นทำให้มีผลต่อ Fund Flow ไหลเข้าด้วย

นอกจากนี้ คาดว่านักลงทุนคงจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดในแถบเอเชียตอนเหนือจะติดลบ แต่ตลาดในกลุ่ม TIP จะอยู่ในแดนบวก

พร้อมให้แนวรับ 1,430 จุด ส่วนแนวต้าน 1,445-1,450 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (9 มิ.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,985.19 จุด ลดลง 19.86 จุด (-0.11%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,958.62 จุด ลดลง 16.02 จุด (-0.32%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,115.48 จุด ลดลง 3.64 จุด (-0.17%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 30.90 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 57.80 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 1.40 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.25 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.14 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 31.09 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.49 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีน ปิดทำการวันนี้ (10 มิ.ย.) เนื่องในเทศกาลเรือมังกร

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 มิ.ย.59) 1,435.65 จุด ลดลง 9.89 จุด (-0.68%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 274.97 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (9 มิ.ย.59) ปิดที่ 50.56 ดอลลาร์/
บาร์เรล ลดลง 67 เซนต์ หรือ 1.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 มิ.ย.59) ที่ 4.15 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.20/21 แกว่งแคบ นลท.รอดูผลประชุม FOMC สัปดาห์หน้า
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่าย ผลกระทบด้านธุรกิจและสังคมไทย ในช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 ว่า คาดว่าจะมีการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน 76,541 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับฟุตบอลยูโรปี 2012 เป็นเงินนอกระบบเศรษฐกิจ หรือจากการเล่นพนันบอล 57,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2014 ที่การใช้จ่ายด้านพนันบอล 55,830 ล้านบาท
  • สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เล็งเข้าถกกระทรวงการคลังเสนอแนวทางหาเจ้าของตลาดหุ้นชัดเจนภายในเดือน มิ.ย.นี้
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เล็งออกใบอนุญาตให้ บล.ทำธุรกิจซื้อขายเงินตราต่างประเทศโดยตรงปลายปีนี้ ไม่ห่วงเก็งกำไรค่าเงิน เพราะเป็นการทำธุรกิจภายในประเทศ แจงกรณีขาดทุนดอกเบี้ยในการบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศเกิดจากต้นทุนดูดซับสภาพคล่องสูงภายใต้การบริหารสภาพคล่อง 5 ล้านล้านบาท
  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยแถลงผลการสำรวจความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย ว่า ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม พ.ค.ต่ำสุดรอบ 8 เดือน เหตุผู้บริโภคยังรู้สึกว่า ศก.ฟื้นตัวช้า แต่ดัชนีเชื่อมั่นต่อ ศก.ปัจจุบันลดต่ำสุดรอบ 14 ปี 6 เดือน แต่คาดหวังว่าครึ่งปีหลัง ศก.จะฟื้น จากการลงทุนของรัฐ
  • ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวอาเซียนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนั้น ททท.จึงได้ร่วมกับสายการบินต่างๆ ของไทย พัฒนาแนวทางอำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทางให้นักท่องเที่ยว โดยใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการบิน เชื่อมไปยังประเทศต่างๆ เพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืนในอนาคต ผ่านการขยายการเชื่อมต่อทางอากาศในการเปิดเส้นทางใหม่เชื่อมเมืองใหญ่ๆ เข้าด้วยกัน และรวมไปถึงการเชื่อมเส้นทางระหว่างเมืองรองเข้าด้วยกัน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SPA (ไอร่า) เป้า 10.40 บาท ไฮไลท์แผนการเข้าสู่ผู้ให้บริการสปาในโรงแรม เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ล่าสุดเปิดไปแล้ว 2 โรงแรม โดย SPA คาดผลการดำเนินงานในปี’59 จะทำจุดสูงสุดใหม่ จากการรับรู้รายได้เต็มปีของธุรกิจสปา 3 ดาว ที่เข้าซื้อกิจการเมื่อปีก่อน ทำให้มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการธุรกิจสปา 4 ดาว ในประเทศอีก 2 ราย สอดคล้องกับประมาณการที่คาดผลการดำเนินงานมีโอกาสทำ New High ต่อเนื่อง โดยคาดรายได้ในปี’59 เติบโต 28% อยู่ที่ 695 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 169 ล้านบาท เติบโต 59%
  • KSL (ยูโอบี เคย์เฮียน) ราคาน้ำตาลอยู่ที่ระดับ 18.35-19.73 เซนต์ต่อปอนด์ ปรับขึ้นมาจาก 2 เดือนก่อนที่ 16.6 เซนต์ต่อปอนด์ และคาดว่าจะขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 20 เซนต์ต่อปอนด์ จากปัญหาการขาดน้ำตาล ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการปี 60 เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะ
  • CK (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดกำไร 2Q59 โดดเด่นอย่างมาก เนื่องจากอาจมีการรับรู้งานส่วนเพิ่มเติมในโครงการเขื่อนไซยะบุรีมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านบาท (ปกติรายได้ประมาณไตรมาสละ 9 พันล้านบาท) อีกทั้งคาดว่าจะมีงานประมูลของทางภาครัฐและเอกชนออกมาเรื่อยๆไม่ว่าจะป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสี ส้ม เหลือง ชมพู และสุวรรณภูมิเฟส 2 นอกจากนี้ CK ได้รับผลประโยชน์จากการเป็นผู้ถือใหญ่ในบริษัทฯ BEM CKP และ TTW ซึ่งอยู่ในอุตสาหกกรมที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มเติบโต
  • TRC (โกลเบล็ก) เป้าเฉลี่ย Consensus 2.59 บาท รายได้ค่อนข้างมั่นคงและมีโอกาสเติบโต โดยบริษัทรอลงนามสัญญาเหมืองแร่โปแตชมูลค่า 3.4 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 3 ส่งผลให้บริษัทมี backlog ขึ้นมาอยู่ที่ราว 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการรับรู้รายได้ 5 ปี อีกทั้งมีโอกาสเติบโตจากการประมูลท่อก๊าซเส้นที่ 5 และรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองอีกเพิ่มเติมในอนาคต
  • THANI (ฟินันเซีย ไซรัส) เพิ่มเป้าเป็น 4.46 บาท หลังปรับกำไรปี 2016 ขึ้น 5% สู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 834 ล้านบาท +11.4% Y-Y เพราะได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ลดลง ทำให้คาดว่าต้นทุนทางการเงินจะลดลงเหลือไม่เกิน 4% จากโครงสร้างเงินกู้ที่เป็นระยะสั้น 50% ขณะที่คุณภาพพอร์ตดีขึ้น NPL ต่ำสุดในรอบ 3 ปี สำหรับกำไร 2Q16 จึงคาด +2.4% Q-Q, +12.5% Y-Y และคาด Dividend yield 5% ต่อปี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ