นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้อนุมัติให้ขยายเที่ยวบินและเส้นทางบินใหม่ ได้แก่ กรุงเทพฯ-เตหะราน จำนวน 3 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เริ่มให้บริการวันที่ 1 ต.ค.นี้ และกรุงเทพฯ-มอสโคว์ จำนวน 4 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เริ่มให้บริการวันที่ 1 พ.ย.59 โดยมองเส้นทางบินดังกล่าวนับว่ามีศักยภาพการเติบโตสูง และน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยว
"ตลาดของเตหะราน ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ โดยมีผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยปีละ 251,000 คน ซึ่งเราก็คาดหวังว่าจะมียอดผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการเต็มลำ ส่วนเส้นทางมอสโคว์ มองว่าปัจจุบันถือเป็นตลาดที่ตรงกับการบริการของการบินไทย ซึ่งขณะนี้ค่าเงินค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับในอดีต ฉะนั้นผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางออกนอกประเทศ จะเป็นระดับ premium class และคูแข่งที่เป็น Low cost ในประเทศรัสเซียก็ปิดตัวลงแล้ว ทำให้เราสามารถแข่งขันได้ในตลาดดังกล่าว"นายจรัมพร กล่าว
นายจรัมพร กล่าวว่า เพื่อเป็นการยกระดับประสิทธิภาพของสนามบินสุวรรณภูมิ ให้เป็นศูนย์กลางการบินในอาเซียนมากขึ้น บริษัทจะเพิ่มความถี่เที่ยวบินในประเทศที่ทำการบินอยู่แล้ว ได้แก่ กรุงเทพฯ-มะนิลา ,กรุงเทพฯ-จาการ์ตา เพื่อเชื่อมต่อกับเที่ยวบินจากประเทศอินเดีย ตะวันออกกลาง และยุโรป อีกทั้งยังเพิ่มเที่ยวบินของไทยสมายล์ ที่ทำการบินไปยัง ย่างกุ้ง ,เวียงจันทน์ ,พนมเปญ ,ไซง่อน และกัวลาลัมเปอร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว คาดว่าจะสามารถให้บริการเพิ่มขึ้นได้ในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้
นอกจากนี้ก็อยู่ระหว่างการศึกษาการเปิดจุดบินใหม่ของไทยสมายล์ เช่น นครศรีธรรมราช และในประเทศอาเซียนของไทยสมายล์ ไม่ว่าจะเป็น ดานัง ,สุราบายา ,เมดาน ,โคตาคินาบาลู เป็นต้น โดยมองว่าจะต้องมีการบริหารเครื่องบินให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ถึงจะดำเนินการเปิดจุดบินดังกล่าวได้
สำหรับการรับมอบเครื่องบินใหม่ แอร์บัส A350 จะมีการรับมอบในเดือนส.ค.นี้ จำนวน 1 ลำ และเดือนก.ย.59 อีกจำนวน 1 ลำ โดยจะทำการบินในเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-เมลเบิร์น จำนวน 2 เที่ยวบิน/วัน
นายจรัมพร กล่าวอีกว่า จากการที่บริษัทได้เพิ่มเที่ยวบินและขยายเส้นทางบินใหม่ จึงมีความจำเป็นที่จะรับสมัครพนักงานต้อนรับเพิ่มขึ้น จำนวนทั้งสิ้น 600 คน โดยจะต้องมีอายุไม่เกิน 24 ปี และจะมีสัญญาการจ้างงาน 6 ปี
สำหรับในช่วงไตรมาส 2/59 มองว่าเป็นช่วงของโลว์ซีซั่นของธุรกิจ ที่อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) จะลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/59 ที่อยู่ที่ 77.5% แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าผลการดำเนินงานโดยรวมจะเป็นอย่างไร