นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า กองทุนเปิด T-Challenge 25 เป็นกองทุนทริกเกอร์มีนโยบายลงทุนหุ้นไทย สามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้า NAV สามารถแตะระดับ 10.7198 บาทต่อหน่วย (วันที่ 21 มิถุนายน 2559) ทำให้ตรงตามเงื่อนไขการปิดกองทุน กองทุนนี้จึงสามารถจ่ายคืนให้กับผู้ลงทุนรวม 6% ใน 3 เดือน
ทั้งนี้ ในระยะแรก ผู้จัดการกองทุนได้วางกลยุทธ์เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลัก เพราะคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติและการลงทุนจากภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้น้ำหนักในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับ กลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มธุรกิจอาหาร และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็กในช่วงสั้นบ้างเมื่อเห็นจังหวะเข้าทำกำไร
“ภาพรวมแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในระยะนี้ ดัชนียังคงแกว่งตัวในกรอบแคบ แม้การลงประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) ยังส่งผลกดดันอยู่ แต่สำหรับตลาดหุ้นไทยก็เริ่มคลายความกังวลลง เพราะคาดว่าจะส่งผลกระทบด้านจิตวิทยาการลงทุนมากกว่า และหากได้รับผลกระทบ บลจ.ธนชาต ก็คาดว่าจะเกิดในช่วงสั้น ๆ เท่านั้น ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคมปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 86.4 หลังปัญหาภัยแล้งเริ่มคลี่คลาย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม น่าจะทำให้หุ้นไทยมีความแข็งแกร่งและไม่เปราะบางอย่างที่กลัวกัน"นายบุญชัย กล่าว
กองทุน T-Challenge 25 เป็นกองทุนทริกเกอร์ฟันด์มีอายุประมาณ 1 ปี จดทะเบียนตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2559 เงื่อนไขการเลิกกองทุนคือ เมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนตั้งแต่ 10.71 บาทขึ้นไป โดยมีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 6% ทั้งนี้ในระหว่าง 1 ปีแรก จะรับซื้อหน่วยลงทุนอัตโนมัติ หากกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 3% ของมูลค่าหน่วยลงทุนที่เสนอขายครั้งแรก โดยได้รับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติไปแล้ว 3% เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ปัจจุบัน บลจ.ธนชาต มีกองทุนทริกเกอร์หุ้นไทยจำนวน 22 กองทุน ถึงเป้าหมายแล้ว 10 กองทุน