(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ อิงลบเล็กน้อย หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงอาจไปกดดันกลุ่มพลังงาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 8, 2016 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ อิงแดนลบเล็กน้อย เนื่องจากราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 46 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ทำให้อาจจะไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานได้ และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบเล็กน้อยราว 0.2-0.3% ขณะที่ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการ

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในคืนนี้ด้วย และวันนี้คาดว่าวอลุ่มเทรดจะชะลอตัวลงจากเมื่อวานนี้ที่มีวอลุ่มเทรดมากถึง 6 หมื่นกว่าล้านบาท อีกทั้งเชื่อว่านักลงทุนคงจะระมัดระวังการลงทุนด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,450 จุด ส่วนแนวต้าน 1,464-1,465 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (7 ก.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,895.88 จุด ลดลง 22.74 จุด (-0.13%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,876.81 จุด เพิ่มขึ้น 17.65 จุด (+0.36%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,097.90 จุด ลดลง 1.83 จุด (-0.09%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 50.60 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 16.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 84.09 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 1.80 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 2.70 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.89 จุด

ส่วนตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องจากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่นเนพาร์ตัก, ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลฮารีรายออีฏิ้ลฟิตริ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ก.ค.59) 1,456.72 จุด เพิ่มขึ้น 4.13 จุด (+0.28%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,839.33 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ก.ค.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (7 ก.ค.59) ปิดที่ 45.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.29 ดอลลาร์ หรือ 4.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 ก.ค.59) ที่ 5.21 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.18/22 แนวโน้มอ่อนค่าหลังดอลล์แข็ง รอติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐคืนนี้
  • "กบง."ไฟเขียวโยกเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อส่งเงินคืนให้คลังตามมติ ครม.เมื่อ 5 ก.ค.เพื่อเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซินและดีเซลขึ้นอีกเฉลี่ย 0.24-0.30 บาทต่อลิตร โดยผลดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่เงินเข้าคลังเพิ่มอีก 800 ล้านบาทต่อเดือน เคาะแอลพีจี ก.ค.คงเดิมที่ 20.29 บาท/กก.
  • ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน มิ.ย. 2559 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ระดับ 71.6 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 72.6 เป็นการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และต่ำสุดในรอบ 25 เดือน ( 2 ปี 1 เดือน) นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2557 แสดงให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจการจ้างงานยังไม่ฟื้นตัวนัก และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อสถานการณ์ในอนาคต ปรับตัวลดลงอยู่ที่ดับ 79.5 ต่ำสุดในรอบ 10 เดือนนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2558 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ระดับ 60.6 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม อยู่ที่ระดับ 66.5 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 87.6
  • รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือน มิ.ย. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) เห็นพ้องชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังกังวลผลกระทบจากการถอนตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) ของสหราชอาณาจักร หรือเบร็กซิต และการจ้างงานสหรัฐที่ยังอ่อนแอ ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ดีขึ้นทั้งตลาดหุ้น สหรัฐ ยุโรป และเอเชีย โดยดัชนีเอ็มเอสซีไอตลาดเกิดใหม่ขยับขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 วัน ราว 1%
  • กรมศุลกากรชง 3 แนวทาง ทั้งลดภาษี-ยึดรถ หวังแก้ปัญหารถยนต์ตกค้างคลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วประเทศ หลังพบตกค้างอื้อ เหตุเอกชนกว่า 50 ราย ไม่ยอมมาชำระภาษีเพื่อนำรถออกอ้างภาษีแพง
  • รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ต่ำกว่าเป้าหมาย 10% ในไตรมาสแรกของปีนี้ มีผลให้ยอดคำสั่งซื้อการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชะลอตัวตามไปด้วย และกระทบต่อเนื่องไปยังกลุ่มแรงงานภาคชิ้นส่วนยานยนต์ แม้ไม่มีการปลดคนงาน แต่ก็จะไม่รับตำแหน่งเพิ่ม รวมถึงมีนโยบายลดกะการผลิตจาก 2 กะต่อวัน เหลือ 1 กะต่อวัน เพื่อลดต้นทุนค่าแรง และหันไปเพิ่มทำงานล่วงเวลา หรือโอทีในบางวันแทน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • IRPC (ยูโอบี เคย์เฮียน) ได้รับผลประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับต่ำ คาดผลประกอบการ 2Q59 จากกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (GIM) ที่ 13 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ใกล้เคียงกับช่วง 1Q59 การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการจากโครงการ Everest และ Stock gain อีกทั้งยังมี yield ในระดับสูงที่ประมาณ 7%
  • TMT (ไอร่า) เป้า 13.30 บาท คาดใน Q2/59 ยังมีกำไรสุทธิอยู่ในระดับที่ดี คาดอยู่ที่ 170 ล้านบาท และทำให้คาด H1/59 มีกำไรสุทธิ 450 ล้านบาท สูงกว่าทั้งปี 58 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 321 ล้านบาท และภายใต้ภาพรวมผลการดำเนินงานของ TMT ทั้งปี 59 ที่ยังโดดเด่น รวมถึงเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจในกลุ่มเหล็ก จากความสามารถในการทำกำไรที่ดีเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่นจากการบริหารจัดการ Stock ได้ดี ที่สำคัญคาด Div.Yield อยู่ในระดับสูงถึง 10.5%
  • BCP (เคจีไอ) เป้า 36 บาท แนวโน้มค่าการกลั่นใน Q2/59 เป็นจุดต่ำสุด และจะฟื้นตัวใน 2H59 โดยคาดไตรมาส 2/59 บันทึกกำไรพิเศษ (กำไรสต๊อกน้ำมัน) ราว 1 พันล้านบาท และมีสตอรี่ IPO บ.ลูก (โซลาร์ฟาร์มในไทยและญี่ปุ่น) ปลายปีนี้
  • TU (ทรีนีตี้) "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" เป้า 23 บาท คาดกำไรปกติ 2Q59 ที่ 1,618 ล้านบาท ดีขึ้น 67%QoQ และ 7%YoY โดยราคาทูน่าปรับตัวดีขึ้นมากจากไตรมาสก่อน ส่งผลบวกต่อทั้งรายได้และอัตรากำไร นอกจากนี้ยังได้ผลบวกจากการรวมงบของ Regen Fisch มาได้เต็มไตรมาส แนวโน้มในไตรมาสหน้าคาดว่าราคาทูน่ายังอยู่ในระดับสูง เนื่องจาก Supply จะลดลงตามฤดูกาล อย่างไรก็ตามอาจปรับประมาณการขึ้นอีกเล็กน้อยภายหลังเสร็จสิ้นดีลการซื้อธุรกิจล็อบสเตอร์ที่ประกาศล่าสุดได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ