โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 (SAWAD) จากแนวโน้มการเติบโตที่ดีทั้งรายได้และกำไร อัตราผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) สูง รวมถึงคาดกำไรจะทำนิวไฮ 2 ปีต่อเนื่อง (ปี 59-60) โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ในช่วง 1,700-1,838 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30-37% จากปี 58 จากคาดการณ์สินเชื่อในปีนี้จะเติบโต 30-40%
ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาส 2/59 คาดจะมี 400-437 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/58 ที่มี 291 ล้านบาท จากสินเชื่อที่เติบโตขึ้นมาที่ประมาณ 18,500 ล้านบาท ด้านตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) สามารถควบคุมได้ดีในระดับ 3-5%
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีธุรกิจใหม่จากการซื้อหนี้มาบริหาร ซึ่งทำให้มีการกระจายรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งข้อดีของ SAWAD อยู่ที่การทวงหนี้มีประสิทธิภาพ และสามารถเข้าถึงตลาดที่แบงก์เข้าไปไม่ถึง
หุ้น SAWAD ช่วงบ่ายอยู่ที่ 37.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+1.36%) ขณะที่ SET ณืกำป ปรับขึ้นไป 0.83%
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) เอเชีย เวลท์ ซื้อ 57 เคทีบี (ประเทศไทย) ซื้อ 55 บัวหลวง ซื้อ 57 ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 53.30 กรุงศรี ซื้อ 54 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++นายสุวัฒน์ บำรุงชาติอุดม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง ระบุว่า SAWAD น่า"ซื้อ"เพราะมี Growth ดี, ROE สูง และคาดว่ากำไรจะทำนิวไฮ 2 ปีต่อเนื่อง(ปี 59-60) โดยคาดว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธิ 1,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากปี 58 และจะมีกำไรสุทธิในปี 60 ถึง 2,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จากปี 59 โดยคาดการณ์สินเชื่อในปี 59 จะแตะ 20,000 ล้านบาท และในปี 60 สินเชื่อจะขึ้นถึง 25,000 ล้านบาท
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิในไตรมาส 2/59 มีกำไรสุทธิ 400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/58 ที่มี 291 ล้านบาท จากสินเชื่อที่เติบโตมากในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยถึงไตรมาส 2/59 สินเชื่อของบริษัทฯมีประมาณ 18,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่พอร์ตสินเชื่อ 7,500 ล้านบาท ด้านตัวเลข NPL ก็อยู่ในระดับ 3-4% ซึ่งถือว่ายังควบคุมได้ดี
ด้านนายอดิศร มุ่งพาลชล รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า SAWAD มีความน่าสนใจลงทุนตรงที่ Growth ทั้งรายได้และกำไรที่เติบโตได้ดี โดยปีนี้คาดการณ์กำไรสุทธิไว้ที่ 1,800 ล้านบาท เติบโต 34% จากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิราว 1,300 ล้านบาท โดยมาจากการขยายสินเชื่อได้ดีในปีนี้คาดว่าจะโต 30% จากปีที่แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีธุรกิจใหม่จากการซื้อหนี้มาบริหาร ซึ่งทำให้มีการกระจายรายได้เพิ่มขึ้น
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ เปิดเผยว่า กำไรสุทธิของ SAWAD ในไตรมาส 2/59 คาดว่าจะเติบโตเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส และช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากภาพรวมของสินเชื่อของบริษัทฯเพิ่มขึ้นมาตลอด โดยคาดการณ์ว่าสินเชื่อในปี 59 จะเติบโต 40% ซึ่งจะเติบโตไตรมาสละ 10% โดยไตรมาส 2/59 เกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้ และราคาสินค้าเกษตรก็เพิ่มขึ้นด้วยหลังจากปัญหาภัยแล้งคลี่คลาย และเป็นช่วงเวลาเปิดเทอมทำให้มีความต้องการใช้เงินมากขึ้น
นอกจากนี้ SAWAD ยังเริ่มปล่อยสินเชื่อในเมียนมาด้วย ดังนั้น แนวโน้มการเติบโตของ SAWAD ยังดีอยู่ และข้อดีของ SAWAD อยู่ที่การทวงหนี้มีประสิทธิภาพ และสามารถเข้าถึงตลาดที่แบงก์เข้าไปไม่ถึง
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 1,731 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากปี 58 โดยคาดว่ากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ระดับ 1.65 บาท/หุ้น
ส่วนบล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อหุ้น SAWAD มองว่าราคาหุ้นยัง Laggard กลุ่ม รับผลกระทบความเข้าใจผิดว่าสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะควบคุมดอกเบี้ยเช่าซื้อ แต่แท้จริงแล้วเป็นในส่วนของดอกเบี้ยปรับเท่านั้น
ทั้งนี้ คาดกำไรปี 59-60 เติบโตเฉลี่ย 37% อยู่ที่ 1,838 ล้านบาท และ 2,510 ล้านบาท ตามลำดับ จากการเติบโตของสินเชื่อราว 30% ต่อปี โดยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ทรงตัวระดับสูงที่ 26% จากความต้องการสินเชื่อของประชาชนจำนวนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้ มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง จากการชะลอการขยายสาขาหลังเพิ่มจำนวนสาขาได้ครอบคลุมพื้นที่แล้ว
นอกจากนี้ NPL มีแนวโน้มทรงตัวระดับ 5% จากการบริหารที่มีประสิทธิภาพบนหลักความระมัดระวังของบริษัท
พร้อมคาดการณ์กำไรงวดไตรมาส 2/59 ไว้ที่ 437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 50% จากงวดปีก่อน จากสินเชื่อที่คาดว่าจะเติบโตราว 12% จากไตรมาสก่อน โดยคาด NPL ลดลงราว 43 bps จากสินเชื่อที่เติบโตอย่างมาก และการ Write-off ที่ปกติเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2 และ 4