KTBST มอง SET เดินหน้าต่อรับปัจจัยบวกเฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ให้กรอบ 1,504-1,520 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 28, 2016 09:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) มองตลาดหุ้นวันนี้ (28 ก.ค.) ว่า การคงนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ในคืนที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจภายนอกประเทศแต่อย่างใด มองเป็นบวกต่อตลาด ทั้งในเรื่องทิศทางเศรษฐกิจและการที่ Fed ยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

แต่ บล.KTBST คาดว่าจะไปปรับขึ้นหลังผ่านการเลือกตั้งประธานาธิบดีไปแล้วในเดือน ธ.ค. อย่างไรก็ตาม ผลต่อราคาสินทรัพย์ทางการเงินหลังการประชุม คือ ค่าเงินดอลล่าร์ปรับตัวลดลง เงินเยนสูงขึ้น ราคาพันธบัตรสูงขึ้น ผลต่อตลาดหุ้นจึงมีทั้งบวกและลบ โดยปัจจัยบวก คือ ดอกเบี้ยยังไม่ขึ้น แต่ปัจจัยลบ คือ อาจมีเงินทุนไหลเข้า (fund flow) เข้าไปลงทุนในเงินเยนหรือพันธบัตรมากขึ้น แต่ถึงกระนั้น ตลาดหุ้นไทยซึ่งมีขนาดเล็ก อาจไม่ได้ถูกกระทบ โดยเรายังมองว่าเงินทุนจากต่างประเทศและจากตลาดพันธบัตรไทยเอง ยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอยู่ต่อไป เพียงแต่จะมีไม่รุนแรงนัก

ทั้งนี้ แนวโน้มที่ญี่ปุ่นอาจเพิ่มวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นไปจากเดิม 10 ล้านล้านเยน เป็น 28 ล้านล้านเยน ทำให้การประชุม BOJ ที่จะเริ่มในวันนี้มีความสำคัญขึ้นมาก เพราะธนาคารกลางอาจมีการเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจ (ลดดอกเบี้ย+QE) ให้สอดคล้องกับแผนของรัฐบาล ตัวแปรที่เคยเป็นตัวถ่วงตลาด คือราคาน้ำมันดิบ จะกลับมาดีขึ้นเล็กน้อย หลังการอ่อนค่าของดอลล่าร์ แต่เราเชื่อว่า นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจกับหุ้นที่มีต้นทุนเป็นน้ำมันมากกว่า เช่นกลุ่มปิโตรเคมี หรือขนส่ง เพราะไม่มั่นใจต่อสภาวะ oversupply ซึ่งเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาน้ำมันอย่างแท้จริง

ส่วนปัจจัยในประเทศ ตัวเลขส่งออกที่ออกมาดี (ส่วนหนึ่งมาจากการส่งออกทองคำ) โดยสินค้าอุตสาหกรรมในกลุ่มอีเล็คทรอนิคส์สำเร็จรูปและยานยนต์ พลิกกลับมาเป็นบวก ซึ่งจะส่งผลบวกมาถึงตลาดหุ้นที่เห็นการฟื้นตัวของการส่งออกอุตสาหกรรมที่เคยชะลอตัวมาก่อนหน้านี้ ส่วนปัจจัยที่จะมีผลต่อตลาดในระหว่างวัน ประกอบด้วย การรายงานการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโดยกระทรวงการคลัง ด้านรองนายกรัฐมนตรี จะมีการกล่าวสุนทรพจน์ เกี่ยวกับโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของไทย และผลการดำเนินงานและการคาดการณ์กำไร Q2 ของบริษัทในตลาด โดยวันนี้ PTTEP จะนำส่งงบการเงิน บล.KTBST จึงประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยว่า ด้วยปัจจัยบวกหลายตัว อาทิ ผลประชุม FOMC ตัวเลขส่งออก และผลการดำเนินงานของบริษัทในตลาดหุ้นหลายตัวที่ออกมาดี และเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างประเทศ จะเป็นตัวหนุนให้ดัชนีฯยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และจะเป็นบวกมากขึ้นหาก SET สามารถผ่านแนวต้านที่ 1,521 จุด ขึ้นไปได้ โดยมองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,504-1,520 จุด สำหรับ กลยุทธ์การลงทุน ความแพงของดัชนีฯกำลังถูกกลบด้วยแรงหนุนจากเงินทุนไหลเข้าและปัจจัยบวกในต่างประเทศ ระดับ P/E ตลาดที่ขึ้นมาสูง KTBST ยังคงแนะนำให้ชะลอการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่หรือถ้าจะลงทุนควรเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกสนับสนุน ซึ่งวันนี้มองเป็นบวก สำหรับหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี,ชิ้นส่วนยานยนต์,อีเล็คทรอนิคส์ และหุ้นที่เป็น Domestic play) สำหรับหุ้นที่แนะนำ SCC,SAT,JWD,KCE,SAWAD,CPALL,COM7,UAC นอกจากนี้ยัง หุ้นแนะนำหุ้น BCP แนะนำ"ซื้อเก็งกำไร" ที่ราคาเหมาะสม 38.00บาท คาดกำไรไตรมาส 2 ปีนี้ ฟื้นตัวได้แข็งแกร่งจาก yield ผลิตภัณฑ์ที่กลับมาปกติ ต้นทุนน้ำมันดิบที่ลดลงโดยเปรียบเทียบและ stock gain ที่ได้จากราคาน้ำมันดิบขาขึ้น มองแนวโน้มกำไรทั้งปียังเติบโตได้จากฐานที่ต่ำในปีก่อน จากการเดินเครื่องโรงกลั่นอย่างเต็มประสิทธิภาพ การหายไปของ stock loss และค่าการตลาดระดับสูง ขณะเดียวกันแผนการนำ BCPG เข้าจะทะเบียนตลาดมีความชัดเจนเพิ่มขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ