สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 84,169 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 8,855 ล้านบาท 2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ ซื้อสุทธิ 513 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 22,486 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 1.72% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01%
Yield Curve ปรับลดลงประมาณ 2-4 bps. ในตราสารระยะยาว ด้านกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติวันนี้ไหลเข้าสุทธิ (NET INFLOW) 22,486 ล้านบาท โดยเกิดจากการซื้อสุทธิ (NET BUY) 22,486 ล้านบาท ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นการซื้อขายตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) และไม่มีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) ทั้งนี้ เป็นผลต่อเนื่องจากผลการประชุม FOMC ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งนักลงทุนคาดการณ์ต่อว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเร็วๆ นี้ จึงทำให้มีเงินทุนไหลเข้าสู่กลุ่มประเทศ Emerging Market อีกครั้ง ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) ของนักลงทุนต่างชาติ 751 ล้านบาท ด้านปัจจัยต่างประเทศ สหรัฐฯ รายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2559 ขยายตัว 1.2% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.6% ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) รายงานผลการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ในภาคธนาคารของยูโรโซน โดยระบุว่าธนาคารส่วนใหญ่มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสามารถต้านทานการทรุดตัวของเศรษฐกิจ และภาวะผันผวนในตลาดการเงินได้ (โดยไม่ได้ทดสอบกรณี Brexit) ทั้งนี้ ตลาดติดตามรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตประจำเดือน ก.ค. ของสหรัฐฯ ซึ่งจะรายงานในคืนนี้