นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า กกพ.จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ หลังวันนี้คณะอนุกรรมการพิจารณาประเมินข้อเสนอขายไฟฟ้าด้านราคา ได้เชิญตัวแทนของผู้ที่ผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคสำหรับโครงการดังกล่าวจำนวน 44 โครงการเข้าร่วมสังเกตการณ์การเปิดซองข้อเสนอขอขายไฟฟ้าด้านราคา ก่อนจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ กกพ. เพื่อพิจารณาต่อไป
สำหรับหลักเกณฑ์การคัดเลือกขอขายไฟฟ้าด้านราคาจะพิจารณาจากอัตราส่วนลดเป็นร้อยละของราคารับซื้อไฟฟ้าในส่วนของอัตรารับซื้อไฟฟ้า Feed-in Tariff ในส่วนคงที่ (FiTF) เท่านั้น โดยรายใดให้อัตราส่วนลดมากสุดก็จะได้รับการพิจารณา ขณะที่ลำดับของการยื่นคำร้องและข้อเสนอขอขายไฟฟ้าจะมีผลต่อการพิจารณาคัดเลือกในกรณีที่มีผู้เสนออัตราส่วนลดเท่ากัน ซึ่งผู้ที่ยื่นก่อนจะมีสิทธิได้รับการพิจารณาคัดเลือกก่อน "เราประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคเพิ่มเติมอีก 16 โครงการจากที่ได้มีการยื่นอุทธรณ์เข้ามา 35 โครงการ หลังจากคณะอนุกรรมการฯเปิดซองราคาในวันนี้แล้ว ก็จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการฯพิจารณา และจะประกาศรายชื่อในวันที่ 25 สิงหาคมนี้"นายวีระพล กล่าว
อนึ่ง เมื่อวันศุกร์ สำนักงาน กกพ.ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านเทคนิคโรงไฟฟ้าชีวมวล ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เพิ่มเติมอีก 16 โครงการ รวม 97.5 เมกะวัตต์ (MW) ส่งผลให้มีผู้ที่ผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคสำหรับโครงการนี้ รวม 44 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 338.3 เมกะวัตต์ ขณะที่กกพ.มีเป้าหมายการรับซื้อที่กำหนดไว้จำนวน 36 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ กกพ.ออกประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (ไม่รวมโครงการพลังงานแสงอาทิตย์) ในแบบ Feed-in Tariff พ.ศ.2559 (ระยะที่ 1 สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา คืออำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอนาทวี) ซึ่งหลังประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และผู้ที่ได้รับการคัดเลือกลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ภายในวันที่ 23 ธ.ค.59 และจะต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในเดือน ธ.ค.61
เบื้องต้นกลุ่มบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคในโครงการดังกล่าว ได้แก่ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ,บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) , บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) ,กลุ่มร่วมทุนบมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) และ บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) , บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เป็นต้น