ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,539.71 จุด ลดลง 8.73 จุด (-0.56%) มูลค่าการซื้อขาย 58,141.70 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยระหว่างวันดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,550.59 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,539.71 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 372 หลักทรัพย์ ลดลง 796 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 328 หลักทรัพย์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เริ่มมีแรงขายออกมาในช่วงบ่ายหลังจากดัชนีฯสามารถยืนได้พักใหญ่ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ติดลบ เนื่องจากมีความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากเห็นโอกาสความเป็นไปได้มากขึ้นที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้
จากนี้ไปก็ต้องจับตาว่าดัชนีฯจะยืนเหนือแนวรับสำคัญที่ 1,530 จุดได้หรือไม่ ทั้งนี้จะเห็นได้ว่านักลงทุนต่างชาติยังคงซื้ออยู่ แม้ว่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงบ้างเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ย.) นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสปรับตัวลงได้มากกว่าจะดีดตัวขึ้น จากแรงขายที่อาจจะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ราคาหุ้นหลายตัวปรับขึ้นไปมากแล้ว พร้อมให้แนวรับหลักที่ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCC มูลค่าการซื้อขาย 4,312.64 ล้านบาท ปิดที่ 548.00 บาท เพิ่มขึ้น 18.00 บาท
RJH มูลค่าการซื้อขาย 2,802.30 ล้านบาท ปิดที่ 18.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,588.66 ล้านบาท ปิดที่ 199.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,583.69 ล้านบาท ปิดที่ 397.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,583.66 ล้านบาท ปิดที่ 345.00 บาท ลดลง 4.00 บาท