KTBST มองกรอบ SET Iกdex กรอบ 1,530-1,580 จุด ปัจจัยเฟดขึ้นดอกเบี้ยกดดัน ยังมองทั้งปี 1,600 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 2, 2016 15:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในเดือน ก.ย.ว่า การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 20-21 ก.ย.จะเป็นปัจจัยหลักต่อตลาดหุ้นไทยทั้งก่อนและหลังการประชุมเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ทำให้ตลาดหุ้นไทยในช่วงก่อนการประชุมดังกล่าวจะเคลื่อนไหวรับแนวโน้มข่าวอยู่ตลอดจนถึงวันการประชุม หุ้นไทยจะมีการเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบได้ แต่หากนักลงทุนไม่เชื่อว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้ก็จะส่งผลให้ตลาดหุ้นไปต่อได้

และหลังจากประชุม FOMC แล้วหากมีการขึ้นดอกเบี้ยซึ่งคาดว่าจะขึ้นที่ 0.25% จะมีผลต่อตลาดหุ้นไทยในเรื่องเงินทุนไหลออก นักลงทุนต้องปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อรับภาวะการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตาม การที่สหรัฐฯขึ้นดอกเบี้ยแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวดีขึ้นถือว่าเป็นข่าวที่ดีเช่นกัน แต่หากยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ตลาดก็ยังมีทิศทางไปต่อได้และก็กลับมารับข่าวจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยในครั้งๆต่อไปใหม่

"ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้าตลาดหุ้นไทยกว่า 1 แสนล้านบาทถือว่าค่อนข้างมาก ในเดือน ก.ย. นี้น่าจะมีเงินไหลเข้าน้อยลง และหากเฟดขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลให้มีเงินทุนไหลออกไปจากตลาดหุ้นไทย ซึ่งนั้นจะส่งผลให้ระดับ P/E หุ้นไทยลดลง"นายวิน กล่าว

ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยที่น่าสนใจคือเรื่องกำไรของตลาดในไตรมาส 3 ที่ KTBST ได้ทำรายงานและประเมินข้อมูลเบื้องต้นว่า กลุ่นธนาคารและกลุ่มพลังงาน ปิโตเคมี จะมีผลกำไรในตรามาสที่ 3 ลดลงจากไตรมาสที่ 2 ส่งผลให้กำไรโดยรวมของตลาดปรับตัวลงเหลือประมาณ 2.3 แสนล้านบาท จากไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2.4 แสนล้านบาท โดยกลุ่มธนาคารที่มีแนวโน้มกำไรลดลงเนื่องจากมีการตั้งสำรองหนี้สูญ และในกลุ่มพลังงานที่มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันที่ต่ำกว่าไตรมาสที่สอง

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฐานกำไรของตลาด ไตรมาสที่ 3 ของปีก่อนที่ค่อนข้างต่ำ จะเป็นผลให้ค่า P/E ของตลาด เมื่อใช้กำไรไตรมาสที่ 3 จะลดลงจากระดับที่ 22 เท่าลงมาอยู่ที่ 17 เท่า และมองกรอบดัชนีหุ้นไทยในเดือน ก.ย. จะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบที่ระดับ 1,530-1,580 จุด แต่แนวโน้มทั้งปี KTBST ยังมองดัชนีหุ้นไทยน่าจะไปถึงระดับ 1,600 จุดได้ จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีการฟื้นตัว หากระดับ P/E ลดลงมาอยู่ที่ 17 เท่า จึงถือว่า “ถูก" เมื่อเทียบกับระดับ 22 เท่าในปัจจุบัน

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในเดือน ก.ย. นั้น บล.KTBST มองว่าตลาดยังมีความผันผวน ทั้งก่อนและหลังประชุม FOMC และปัจจัยบวกต่อตลาดเริ่มมีน้อยลง จึงแนะนำให้ลดน้ำหนักการลงทุน เพื่อรอจังหวะเข้าซื้อในรอบใหม่ รวมถึงจับตาดูการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างประเทศ โดยหุ้นในกลุ่มที่แนะนำคือ กลุ่มที่มีผลการดำเนินงานต่อเนื่องและกลุ่มที่มีความปลอดภัยสูงไม่เหวี่ยงตามตลาด หุ้นเด่นได้แก่ ERW,FORTH ,JMART,MBAX

นอกจากนี้ ในปลายเดือน ก.ย.จะมีการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 26-28 ก.ย. เพื่อพิจารณาในเรื่องกำลังการผลิต ซึ่ง ณ ปัจจุบันตลาดคาดว่าจะสามารถตกลงกันได้ในเรื่องการควบคุมปริมาณน้ำมันในตลาดโลก ทำให้ราคาน้ำมันอาจปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลดีต่อประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน มองราคาน้ำมัน ในเดือน ก.ย. เคลื่อนไหวในกรอบ 40-50 เหรียญฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ