ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายร่วงลงต่อไปถึงกว่า 20 จุด กังวลต่างชาติอาจขายออกอย่างต่อเนื่อง หลังหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางปรับตัวลงหนัก ขณะที่ตลาดฯ อยู่ระหว่างรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะประกาศออกมาในคืนวันนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งตัดสินใจขายเพื่อลดความเสี่ยง
เมื่อเวลา 15.08 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,519.23 จุด ลดลง 20.48 จุด (-1.33%)
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.29 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,518.08 จุด ลดลง 21.63 จุด (-1.40%)
บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ฯภาคบ่ายนี้ว่า SET Index ปรับลงหนักตั้งแต่เช้า ติดลบกว่า 1% คาดว่านักลงทุนต่างประเทศน่าจะเป็นฝ่ายขายหนัก จากสัญญาณการปรับลงของกลุ่ม Big & Mid Cap พลังงาน ธนาคารฯ รับเหมาฯ อสังหา
ด้านนายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงกว่า 20 จุด มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นแรงขายจากกองทุนในประเทศ และ Prop Trade เนื่องจากได้มีการซื้อนำไปแล้วก่อนหน้านี้ ก็อาจจะมีการขายปรับพอร์ตบ้างในส่วนที่กำไร อย่างไรก็ดี ให้ติดตาม Fund Flow จากนักลงทุนต่างชาติด้วยหลังปิดเทรดวันนี้ เนื่องจากในการเทรดช่วงเช้านักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิราว 200 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตลาดฯ รับแรงขายจากหุ้นบิ๊กแคปออกมาหลังจากไร้ปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ประกอบกับ ตลาดฯก็มี Valuation ที่ถือว่าราคาไม่ถูกแล้ว อีกทั้งยังมีความกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วย ซึ่งก็ต้องรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ก่อน ส่วนตลาดในกลุ่ม TIP ก็มีตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์มีแรงขายนำไปในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 8 ก.ย.นี้ แม้คาดว่าคงไม่มีประเด็นสำคัญ เพราะก่อนหน้านี้ทางธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เพิ่งออกมาตรการไป ส่วนทางยูโรโซน ก็จะมีการทยอยประกาศตัวเลข GDP ในวันที่ 6 ก.ย. ซึ่งก็คาดว่าจะทรงตัว ดังนั้น ECB ก็น่าจะยังไม่รีบออกมาตรการใด ๆ
พร้อมให้แนวรับ 1,518-1,495 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530-1,540 จุด